หน้าเว็บ

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ชีสเค้ก!!!

ชีสเค้กสตรอว์เบอรี่ - มะม่วง : strawberry mango cheesecake


ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
 สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 9 นิ้ว
1. แครกเกอร์ หรือ Zwieback บดละเอียด 3/4 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชต.
3. เนยสดละลาย 2 ชต.
4. เกลือป่น 1/8 ชช.
วิธีทำก็แค่นำทุกอย่างมาผสมรวมกัน ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันจนร่วนเป็นเม็ดทราย นำไปเทใส่พิมพ์เกลี่ยให้เสมอกันแล้วกดให้เรียบแน่นทั่วฐานพิมพ์ค่ะ จากนั้นเอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ

ส่วนผสมสตรอว์เบอรี่
1. สตรอว์เบอรี่ 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. ผงเจลลี่สีแดง (Cake Glaze, red) 4 กรัม
จัดการปั่นสตรอว์เบอรี่รวมกันให้ละเอียด แล้วกรองเอาเมล็ดออก ใช้ช้อนกดๆ บดๆ บีบๆ คั้นๆ มันเข้าค่ะ พอได้เนื้อได้น้ำเนียนๆ ไร้เมล็ดเล็กๆ ให้ระคายเคืองแล้วก็ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำมะนาวลงไป ชิมรสหวานเปรี้ยวมากน้อยตามชอบ จากนั้นใส่ผงเจลลี่ลงไปคน จนผงเจลลี่ละลาย พักไว้ ก่อนค่ะ

ส่วนผสมมะม่วง
1. เนื้อมะม่วงสุก 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. ผงเจลลี่สีขาว (Cake Glaze, clear) 4 กรัม
จัดการปั่นมะม่วงให้ละเอียด แล้วกรองเอากากออก ให้ได้เนื้อได้น้ำเนียนๆ แล้วก็ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำมะนาวลงไป ชิมรสหวานเปรี้ยวมากน้อยตามชอบ จากนั้นใส่ผงเจลลี่ ลงไปคนจนผงเจลลี่ละลาย พักไว้ก่อนค่ะ

ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 500 กรัม
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 115 กรัม
4. น้ำตาลวานิลา 1 ซอง (8 กรัม) หรือกลิ่นวานิลา 1 ชช.
5. น้ำมันพืช 3 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 250 มล.
7. ผิวมะนาว 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 1 ซอง (37 กรัม)

วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสให้เนียนแล้วใส่ไข่ลงกับผิวมะนาวลงไปตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทราย น้ำตาล วานิลลา (หรือกลิ่นวานิลา) น้ำมันพืช เฮฟวี่ครีม และผงพุดดิ้ง ตีด้วยความเร็วต่ำหรือใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน แล้วจึงเทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยค่ะ
ตักซอสสตรอว์เบอรี่สลับกับซอสมะม่วงใส่บนเค้กเป็นหย่อมๆ จนหมด แล้วใช้ปลายตะเกียบคนให้เป็นลาย ส่งเข้าเตาอบ อบไฟบน ล่าง โดยวางไว้ตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 70 นาทีค่ะ พอเค้กสุกก็ปิดไฟ เปิดฝาเตาอบแง้มไว้ ทิ้งเค้กไว้ให้ เย็นตัวในเตาอบประมาณ 20-30 นาทีค่ะ
นำเค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้อง แล้วก็ค่อยๆ แซะเค้กออกจากขอบพิมพ์ก่อนถอดสปริงฟอร์มออกค่ะ จากนั้นถ้าใครจะทำเจลลี่ราดหน้าเค้ก เพื่อความเงางามก็ทำตามนี้ค่ะ หรือถ้าไม่อยากทำก็นำเค้กเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนตัดนะคะ

ส่วนผสมเจลลี่
1. ผงเจลลี่ 1/2 ซอง (6 กรัม)
2. น้ำเย็น 125 มล.
3. น้ำตาลทราย 1/2 ชต. หรือน้ำตาลวานิลลา 4 กรัม

วิธีทำ
นำผงเจลลี่มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเย็นและน้ำตาลทรายลงไปผสม คนจนผงเจลลี่ละลาย แล้วนำตั้งไฟคนตลอดเวลา พอเดือดยกลงจากเตาค่ะ พักไว้อีกประมาณ 1-2 นาทีก่อน แล้วจึง ใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ อีกครั้งก่อนนำมาราดหน้าเค้ก จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นสักหน่อย ก็เอาเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนทานจะอร่อย ชื่นใจมากๆ เลยจ้ะ


เลมอนเคิร์ดชีสเค้ก : Lemon Curd Cheesecake

เลมอนเคิร์ดชีสเค้กเนี่ยเป็นชีสเค้กที่เราโปรดปรานเหลือเกิน แต่สามีและพ่อแม่กลับไม่ค่อยชอบเท่าไรค่ะ เค้าจะกินเต็มที่ก็สองชิ้นเท่านั้น ส่วนเราปลื้มที่เนื้อชีสเค้กนุ่มอร่อย ตัดกับเคิร์ดมะนาวเปรี้ยว หวาน หอม ชื่นใจมากๆ เคยทำแล้วกินคนเดียวทั้งถาดก็มีค่ะ ก็มันเพลิน แต่เราจะไม่ชอบพวกฐานชีสเค้กน่ะ ไม่ว่าจะเป็นฐานประเภทไหน เวลากินก็เขี่ยๆ มันทิ้งตลอดค่ะ

ส่วนผสมฐานครัสท์ สำหรับถาดขนาด 18x18 ซม.

  • เนยสดเย็น 30 กรัม
  • ไข่ไก่ 1/2 ฟองเล็ก
  • น้ำตาลทรายแดง 15 กรัม
  • ผิวมะนาวขูด 1/2 ชช. หรือกลิ่นมะนาว 2-3 หยด
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • แป้งอเนกประสงค์ 60 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบไว้ที 200°C/400°F เตรียมถาดทาเนยบางๆ ให้ทั่ว แล้วปูกระดาษไขทับ จากนั้นก็หันมาตีเนยตีเนยรวมกับไข่แดง น้ำตาลทราย วานิลา และเกลือพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน อย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลว จากนั้นก็คลึงแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมให้ใหญ่เท่าฐานพิมพ์ แล้ววางแป้งที่บนถาด ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วแผ่นแป้ง นำเข้าอบประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แล้วพักให้เย็นในถาดค่ะ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 250 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
4. กลิ่นมะนาว 1/2 ชช.
5. น้ำมันพืช 1 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 100 มล.
7. ผิวมะนาวขูด 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 10 กรัม

วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสด้วยความเร็วต่ำให้เนียน จากนั้นจึงใส่ไข่ น้ำตาลทราย และกลิ่นมะนาวลงไปตีรวมกัน สุดท้ายใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตีแค่พอเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยแล้วปาดให้เรียบเสมอกันดีค่ะ

ส่งเข้าเตาอบ อบไฟบน-ล่างจนหน้าเค้กเซ็ตตัวดี ใช้เวลาอบประมาณ 40 นาทีค่ะ พอสุกก็เอาชีสเค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้องค่ะ ระหว่างที่รอเค้กเย็นเราก็ไปทำเลมอนเคิร์ดไว้ราดหน้าเค้กกันนะคะ

ส่วนผสมเลมอนเคิร์ด
1. ไข่แดง 2 ฟอง
2. ไข่ทั้งฟอง 1 ฟอง
3. น้ำมะนาว 60 มล.
4. ผิวมะนาวขูดจากมะนาว 1 ลูก
5. น้ำตาลทราย 65 กรัม
6. เนยเค็ม 40 กรัม
นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้ร้อนจนเดือดแล้วลดไฟอ่อนสุด ใส่ไข่ น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายลงในอ่างผสม นำอ่างวางบนหม้อน้ำร้อน (วิธีเดียวกับ double boiler) ใช้ตะตร้อมือคนส่วนผสมตลอดเวลา คนไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ จนส่วนผสมกลายเป็นครีมข้น ใช้เวลาประมาณ 8-10 นาทีค่ะ จากนั้นยกลงจากเตา เทใส่กระชอนกรองทันทีเพื่อให้เนื้อเนียน กรองแล้วใส่เนยและผิวมะนาวขูดลงไปคนให้เนยละลายหมด แล้วใช้พลาสติกแร็ปหน้าเคิร์ดไว้ นำเข้าตู้เย็นรอให้ชีสเค้กเย็นสนิทแล้วจึงนำเคิร์ดมาราดหน้าชีสเค้กค่ะ
เมื่อราดหน้าชีสเค้กด้วยเคิร์ดแล้วก็นำไปเข้าตู้เย็นไว้สัก 2 ชม. เพื่อให้เคิร์ดเซ็ตตัวก่อนนำออกมาตัด จะทำให้ตัดได้เรียบสวยดูน่าทานนะคะ หากรีบตัดก่อนรับรองเลอะเทอะเปรอะเปื้อนแน่นอนค่ะ
ใครลองทำก็ขอให้อร่อยๆ กันทุกคนนะคะ หากทำแล้วผลที่ได้ออกมาถูกใจหรือไม่ชอบยังไงกระซิบบอกกันมั่งก็ดีค่ะ เพราะถ้ารู้ว่าโพสท์แล้วมีคนลองทำตามเจ้าของบล็อกจะได้มีแรงอัพเดทบ่อยๆ นะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวรู้สึกว่าบ้านร้างก็จะพาลขี้เกียจอัพไปเลยค่ะ เมี้ยวๆ


ชีสเค้กมะม่วง : mango cheesecake

ชีสเค้กนี้เราทำใส่พิมพ์มัฟฟินที่ทำจากซิลิโคน ได้ทั้งหมด 6 อันนะคะ ชอบที่มันอันเล็ก ๆ น่ารักดีค่ะ สะดวกเวลาทานด้วย เอาออกจากพิมพ์ก็ง่ายมากๆ เลยค่ะ ถ้าใครไม่มีพิมพ์ซิลิโคนก็ทำใส่สปริงฟอร์มขนาด 7 นิ้วได้นะคะ มาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
1. แครกเกอร์ หรือ Zwieback บดละเอียด 1/2 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชต.
3. เนยสดละลาย 1 1/2 ชต.
4. เกลือป่น 1 หยิบมือ

วิธีทำ
แค่นำทุกอย่างมาผสมรวมกัน ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันจนร่วนเป็นเม็ดทราย แล้วนำไปเทใส่พิมพ์ (ถ้าเป็นสปริงฟอร์มก็ทาเนยบางๆ ให้ทั่วพิมพ์แล้วโรยขนมปังป่นหรือแป้งบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ด้วยนะคะ) เกลี่ยให้เสมอกันแล้วกดให้เรียบแน่นทั่วฐานพิมพ์ค่ะ จากนั้นเอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ

ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 300 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 60 กรัม
4. โยเกิร์ตธรรมชาติ 2 ชต.
5. กลิ่นวานิลา 1/4 ชช.
6. เฮฟวี่ครีม 150 มล.
7. น้ำมันพืช 1 ชต.
8. ผงพุดดิ้ง (รสวานิลา) 18 กรัม (ถ้าไม่มีใช้แป้งเค้ก 2 ชต. ค่ะ)

ส่วนผสมซอสมะม่วง
1. มะม่วงสุก บดละเอียดแล้วคั้นเอากากออก 100 กรัม
3. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
4. น้ำมะนาว 1 ชช.
5. ผงเจลลี่ (Tortenguß, klar) 3 กรัม

วิธีทำ
ผสมมะม่วงสุกที่คั้นเอากากออกแล้วกับน้ำตาลทรายและน้ำมะนาวคนให้เข้ากัน ชิมรสหวานเปรี้ยวมากน้อยตามชอบ จากนั้นใส่ผงเจลลี่ลงไปคน ให้ละลาย นำขึ้นตั้งไฟคนตลอดเวลาพอร้อนก็ปิดไฟ พักไว้ก่อนค่ะ

วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 175 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสให้เนียนด้วยความเร็วปานกลางค่ะ เมื่อครีมชีสเนียนดีแล้วก็่ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีจนน้ำตาลหมด แล้วจึงใส่ไข่ลงไปตีให้เข้ากัน ใส่โยเกิร์ต กลิ่นวานิลา เฮฟวี่ครีม น้ำมันพืช และผงพุดดิ้ง (หรือแป้งเค้ก) ลงไป ใช้ความเร็วต่ำสุดตีแป๊บเดียวแค่พอเข้ากัน (ใครจะใช้ตะกร้อมือ คนให้เข้ากันก็ได้นะคะ) แล้วจึงเทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยค่ะ
ตักซอสมะม่วงหยอดบนเค้กเป็นหย่อม ๆ แล้วใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้ปลายแหลมคนให้เป็นลายตามชอบ นำเข้าอบไฟบน - ล่าง โดย วางไว้ตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 30-35 นาทีค่ะ (สำหรับสปริงฟอร์มใช้เวลาอบประมาณ 45-50 นาทีค่ะ)
พอสุกนำเค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้องแล้วค่อยเอาเค้กออกจากพิมพ์นะคะ จากนั้นเราก็ไปทำเจลลี่ราดหน้าเค้ก ซึ่งขั้นตอนนี้ จริงๆ จะไม่ทำก็ได้ แต่ทำก็ดีเพื่อความเงางามค่ะ ส่วนผสมนะคะ

ส่วนผสมเจลลี่
1. ผงเจลลี่ 1/2 ซอง (6 กรัม)
2. น้ำเย็น 125 ลิตร
3. น้ำตาลวานิลา 1/2 ชต.

วิธีทำ
นำผงเจลลี่มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเย็น และน้ำตาลวานิลาลงไปผสม คนจนผงเจลลี่ละลายหมด แล้วนำตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนตลอดเวลาจนเดือด ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็นตัวลงประมาณ 1 นาทีก่อน แล้วจึงใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ อีกครั้ง ก่อนนำมาราดหน้าเค้ก จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นอุณหภูมิห้องก็เอาเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนทานจะอร่อยมาก ๆ เลยค่ะ




ซูเฟล่ชีสเค้กญี่ปุ่น : Japanese Soufflé Cheesecake


ซูเฟล่ชีสเค้กญี่ปุ่น สูตร 1


เราเคยทำซูเฟล่มาหลายสูตรแล้ว แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า 2 สูตรนี้รสชาติออกมาถูกปากถูกใจมากที่สุดค่ะ ทำก็ง่ายแสนง่ายใช้เวลาผสมแป๊บๆ ก็เสร็จแล้ว แต่ตอนอบนี่รอเงกเลยค่ะ แง่มๆ ถึงต้องรอนานยังไงผลงานหลังจากที่อบเสร็จแล้วก็คุ้มค่าแก่การรอคอยค่ะ อร่อยมากๆ เราเคยเผลอกินคนเดียวทั้งก้อนหมดในวันเดียวเลยด้วย พุงห้อยแล้วห้อยอีก ไม่เจียมตัวเลยจริงๆ 


ส่วนผสมสูตร 1 สำหรับสปริงฟอร์มหรือพิมพ์กลมขนาด 18 ซม.
  • ครีมชีส 120 กรัม
  • เนยสด 20 กรัม
  • นมสด 40 มล.
  • แป้งเค้ก 40 กรัม
  • น้ำตาลทรายป่น ก.50 กรัม
  • น้ำส้มคั้น 1/2 ชต.
  • ผิวส้มขูดฝอย 1/2 ชช.
  • เกลือ 1/4 ชช.
  • ไข่แดง 3 ฟอง
  • ไข่ขาว 3 ฟอง
  • น้ำมะนาว 1/2 ชช.
  • น้ำตาลทรายป่น ข. 20 กรัม
  • แยมแอพริคอท 1 ชต.
 วิธีทำ   ตัดกระดาษไขรองก้นและขอบ พิมพ์ด้านในให้ทั่วเพื่อกันเค้กติดพิมพ์ แล้วใช้กระดาษฟลอยด์หุ้มพิมพ์ให้ทั่วกันน้ำเข้าตอนอบด้วยค่ะ อุ่นเตาอบ ไว้ที่ 160 องศาเซลเซียส นำถาดอบหรือชามทนไฟขนาดใหญ่กว่าพิมพ์เค้กใส่น้ำประมาณ 500 มล. วางในเตาอบด้วยค่ะ

ละลายครีมชีส เนย และนมสดรวมกันในไมโครเวฟ คนให้เข้ากันดี พักไว้ให้อุ่นลงหน่อย เทแป้งใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล ก. ลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ทำบ่อตรงกลาง เทไข่แดง น้ำส้มคั้น ผิวส้มขูด เกลือ และส่วนผสมครีมชีสที่ละลายไว้แล้วลงไปในบ่อแป้ง คนเร็ว ๆ พอส่วนผสมเข้ากันก็หยุดค่ะ ห้ามคนนานนะคะ

ตีไข่ขาวพอเริ่มฟู ใส่น้ำมะนาว ตีจนเป็นโฟมแล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาล ข. ทีละน้อย ตีจนน้ำตาลหมด ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและมีฟองที่ละเอียดมาก แบ่งไข่ขาวมาตะล่อมในส่วนผสมแป้ง แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง ตะล่อมเบามือด้วยตะกร้อมือหรือพายยางให้ส่วนผสมเข้ากันดี เราใช้ตะกร้อมือผสมไข่ขาวกับส่วนผสมอื่นพอเริ่มเข้ากันก่อน แล้วจึงใช้พายยางตะล่อมวนส่วนผสมก้นอ่างให้เข้ากันดีอีกสัก 3-4 ครั้งค่ะ


เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำพิมพ์เข้าอบโดยวางในถาดใส่น้ำ หรือถ้ากลัวน้ำเข้าแล้วก้นเค้กจะแฉะก็วางพิมพ์บนตะแกรงแล้ววางถาดใส่น้ำไว้ บนพื้นเตาอบก็ได้ค่ะประมาณ 60 นาที โดยวางพิมพ์ไว้ชั้นที่สองจากล่างของเตา อบไฟล่างอย่างเดียว 40 นาที และอีก 20 นาทีสุดท้ายอบไฟบน-ล่างค่ะเช็คสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมทิ่มตรงกลาง ถ้าไม่มีเศษแป้งติดมาก็ใช้ได้ค่ะ


นำออกมาจากเตาอบแล้วเอาเค้กออกจากพิมพ์ ทันที เพราะถ้าปล่อยให้เย็นคาพิมพ์เค้กจะยุบลงเยอะเลยนะคะ วางเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นอุณภูมิห้องค่ะ จากนั้นนำแยมแอพริคอทผสมน้ำนิดหน่อยตั้งไฟอ่อน คนให้เนียน แล้วนำมาทาหน้าเค้กค่ะ จะได้ขึ้นเงาสวยงามน่ากิน ก่อนเอาเข้าตู้เย็นสัก 1 ชม. ก่อนตัดทาน แต่เราไม่เคยได้ใส่เลยค่ะ เย็นปุ๊บเจี๊ยะปั๊บตลอด อิอิ


ซูเฟล่ชีสเค้กญี่ปุ่น สูตร2
หรือใครจะลองสูตรนี้ก็ได้ค่ะ เค้กออกมานุ่มฟูอร่อยกินเพลินเหมือนกันเลย ดูเหมือนสูตรนี้จะฟูกว่าสูตรแรกหน่อยๆ ด้วยค่ะ เราค่อนข้างจะชอบสูตรนี้มากกว่าสูตรแรกนิดๆ ด้วย วิธีเตรียมส่วนผสม วิธีผสมและเวลาอบจะทำเหมือนสูตรแรกทุกประการนะคะ แต่สูตร 2 นี้ตีไข่ขาวกับเกลือและน้ำตาลทราย ข. ค่ะ

ส่วนผสมสูตร 2 สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม. 
  • ครีมชีส อุณหภูมิห้อง 90 กรัม
  • เนยนุ่มๆ 30 กรัม
  • นมสด 100 มล.
  • น้ำตาลทรายป่น (ก) 40 กรัม
  • ไข่แดง 3 ฟอง
  • น้ำมะนาว 1 ชต.
  • วานิลา 1/2 ชช.
  • แป้งเค้ก 30 กรัม
  • ไข่ขาว 3 ฟอง
  • น้ำตาลทรายป่น (ข) 30 กรัม
  • เกลือ 1 หยิบมือ
  • แยมแอพริคอท 1 ชต.
วิธีทำ  ตัดกระดาษไขรองก้นและขอบพิมพ์ด้านในให้ทั่วเพื่อกันเค้กติดพิมพ์ แล้วใช้กระดาษฟลอยด์หุ้มพิมพ์ให้ทั่วกันน้ำเข้าตอนอบด้วยค่ะ อุ่นเตาอบไว้ที่ 160 องศาเซลเซียส นำถาดอบหรือชามทนไฟขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ใส่น้ำประมาณ 500 มล. วางในเตาอบด้วยค่ะ

ละลายครีมชีส เนย และนมสดรวมกันในไมโครเวฟ คนให้เข้ากันดี พักไว้ให้อุ่นลงหน่อย เทแป้งใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล ก. ลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ทำบ่อตรงกลาง เทไข่แดง น้ำมะนาว วานิลา และส่วนผสมครีมชีสที่ละลายไว้แล้วลงไปในบ่อแป้ง คนเร็ว ๆ พอส่วนผสมเข้ากันก็หยุดค่ะ ห้ามคนนานนะคะ

ตีไข่ขาวกับเกลือพอเริ่มฟูแล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาล ข. ทีละน้อย ตีจนน้ำตาลหมด ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและมีฟองที่ละเอียดมาก แบ่งไข่ขาวมาตะล่อมในส่วนผสมแป้ง แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง ตะล่อมเบามือด้วยตะกร้อมือหรือพายยางให้ส่วนผสมเข้ากันดี

เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำพิมพ์เข้าอบโดยวางในถาดใส่น้ำ หรือถ้ากลัวน้ำเข้าแล้วก้นเค้กจะแฉะก็วางพิมพ์บนตะแกรงแล้ววางถาดใส่น้ำไว้บนพื้นเตาอบก็ได้ค่ะประมาณ 60 นาที โดยวางพิมพ์ไว้ชั้นที่สองจากล่างของเตา อบไฟล่างอย่างเดียว 40 นาที และอีก 20 นาทีสุดท้ายอบไฟบน-ล่างค่ะเช็คสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมทิ่มตรงกลาง ถ้าไม่มีเศษแป้งติดมาก็ใช้ได้ค่ะ

นำออกมาจากเตาอบ แล้วเอาเค้กออกจากพิมพ์ทันที เพราะถ้าปล่อยให้เย็นคาพิมพ์เค้กจะยุบลงเยอะเลยนะคะ วางเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นอุณภูมิห้องค่ะ จากนั้นนำแยมแอพริคอทผสมน้ำนิดหน่อยตั้งไฟอ่อน คนให้เนียน แล้วนำมาทาหน้าเค้กค่ะ จะได้ขึ้นเงาสวยงามน่ากิน ก่อนเอาเข้าตู้เย็นสัก 1-2 ชม. ก่อนตัดทานนะคะ


ชีสเค้กหน้าผลไม้ : mix fruit cheesecake

ช่วงนี้กำลังบ้าเค้กหน้าผลไม้ค่ะ เพราะผลไม้กำลังออกเยอะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วทำทาร์ตส่วนวันนี้เปลี่ยนเป็นชีสเค้กค่ะ แต่ทำไปฝากเพื่อนน่ะค่ะ ไม่ได้ทานเอง ทำเสร็จเสียดายมากว่าจะไม่ให้แล้ว ฮ่าๆๆ มาดูส่วนผสมกันนะคะ (อ้อ..ถ้าใครหาส่วนผสมตามที่บอกไม่ได้ ก็ใช้สูตรชีสเค้กที่เคยทำ แล้วออกมาดีและชอบแทนก็ได้นะคะ)ก่อนอื่นเตรียมพิมพ์ขนาด 9 นิ้ว ทาเนยบางๆ ให้ทั่วพิมพ์แล้วโรยแป้ง หรือขนมปังป่นบางๆ ให้ทั่วพิมพ์เลยค่ะ
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
1. Rusk (Zwieback) บดละเอียด 1 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1 ชต.
3. เนยสดละลาย 3 ชต.
4. เกลือป่น 1/8 ชช.
วิธีทำก็แค่นำทุกอย่างมาผสมรวมกัน ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันจนร่วนเป็นเม็ดทราย แล้วนำไปเทใส่พิมพ์ เกลี่ยให้เสมอกันแล้วกดให้เรียบแน่นทั่วฐานพิมพ์ค่ะ จากนั้นเอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ แล้วเราก็ไปทำตัวชีสเค้กกันค่ะ อ้อ...อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 C ด้วยนะคะ

ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 500 กรัม
2. โยเกิร์ตธรรมชาติ 1/4 ถ้วย
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำตาลทราย 115 กรัม
5. น้ำตาลวานิลา 1 ซอง (8 กรัม)
6. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
7. เฮฟวี่ครีม 250 มล.
8. ผิวมะนาว 1 ชช.
9. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 1 ซอง (37 กรัม)
วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 180 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสให้เนียนแล้วใส่ไข่ลงไปตีให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตีให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยแล้วส่งเข้าเตาอบ ใช้เวลา ประมาณ 1 ชม. ค่ะ ถ้าเตาอบที่บ้านไฟแรงพออบสัก 50 นาทีแล้วต้องเช็คดูนิดนึงค่ะ พอสุกก็ปิดไฟแง้มฝาเตาอบไว้ ทิ้งไว้ในเตาอบอีกประมาณ 15-30 นาทีค่ะ
จากนั้นนำเค้กออกมาพักบนตะแกรง พออุ่นก็ถอดพิมพ์แล้วปล่อยให้เย็นอุณหภูมิห้อง จากนั้นนำเค้กเข้าตู้เย็นไว้สัก 1 ชม. ก่อนนำออกมาแต่ง หน้าด้วยผลไม้ค่ะ

ส่วนผสมหน้าเค้ก
1. ผลไม้ตามชอบ
2. ผงเจลลี่ 1 ซอง (12 กรัม)
3. น้ำเย็น 1/4 ลิตร
4. น้ำตาลทราย 1 ชต. หรือน้ำตาลวานิลลา 1 ซอง (8 กรัม)
วิธีทำ
จัดการล้างและหั่นผลไม้ที่เราจะใช้แต่งหน้าเค้ก แล้วจัดเรียงตามชอบค่ะ เสร็จแล้วก็นำผงเจลลี่มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเย็นไปผสม 1/4 ลิตร และน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ คนจนผงเจลลี่ละลาย แล้วนำตั้งไฟคนตลอดเวลา ปล่อยให้เดือดประมาณ 1 นาที แล้วยกลงจากเตาค่ะ พักไว้อีกประมาณ 1 นาทีก่อน แล้วจึงใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ อีกครั้งก่อนนำมาราดหน้าเค้ก จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นสักหน่อยก็เอาเข้าตู้เย็นสัก 1-2 ชม. ก่อนทานจะอร่อยมากๆ เลยค่ะ

ชีสเค้กจร้า

                                         เบอรี่ชีสเค้ก : Berry Cheesecake


เมื่อวานคุณ aiwnoi ถามหาสูตรบลูเบอรี่ชีสเค้ก วันนี้เราเลยจัดให้ตามคำขอ แต่พอดีมีบลูเบอรี่และเรดเคอเรนท์แช่แข็งอยู่ เลยใส่ไปทั้งสองอย่างซะ ออกมาเปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ นุ่มๆ เบาๆ อร่อยดีค่ะ คุณ aiwnoi ชอบบลูเบอลี่ก็ใส่แค่บลูเบอลี่อย่างเดียวได้นะคะ มาดูสูตรเลยค่ะ

ส่วนผสมฐานเค้ก สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม. 
  •  เนยสดนุ่มๆ 40 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 25 กรัม
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 80 กรัม
  • เกลือ 1 หยิบมือ
  • วานิลา 1/4 ชช.

ส่วนผสมชีสเค้ก
  • ครีมชีสนุ่มๆ 300 กรัม
  • แป้งเค้ก 20 กรัม
  • วานิลา 1 ชช.
  • วิปปิ้งครีม 80 กรัม
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 1 ฟอง (แยกขาว-แดง)
  • ไวท์ช็อคโกแล็ต 60 กรัม
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • บลูเบอรี่กับเรดเคอเรนท์ 60 กรัม
วิธีทำ 

อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส ทาเนยให้ทั่วสปริงฟอร์มแล้วโรยแป้งนวลบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ค่ะ 

จากนั้นทำฐานเค้กโดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่อ่างผสม ใช้มีดหรือช้อนส้อมสับให้เข้ากันจนแป้งมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่วเขียว นำแป้งมาคลึงเป็นแผ่นกลมขนาดเท่าฐานพิมพ์แล้วนำไปกรุพิมพ์ ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่ว แล้วนำไปใส่ตู้เย็นพักไว้ก่อนค่ะ

ทำฐานเค้กเสร็จแล้วเราก็มาทำตัวชีสเค้กกันค่ะ โดยนำไวท์ช็อคโกแล็ตไปละลายในไมโครเวฟ พักไว้ก่อน จากนั้นนำครีมชีส, แป้งเค้ก, ไข่แดง, น้ำตาลทราย 30 กรัม, วานิลา และวิปปิ้งครีมใส่อ่างผสม ตีด้วยความเร็วกลางพอเข้ากัน  เทช็อคโกแล็ตที่ละลายไว้ใส่ลงไปคนพอเข้ากันค่ะ 

นำไข่ขาวกับเกลือป่นใส่ชามอ่างอีกใบ ตีด้วยความเร็วต่ำจนเป็นฟองแล้วใส่น้ำตาลทราย 10 กรัมที่เหลือลงไปตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน นำไปตะล่อมรวมกับส่วนผสมครีมชีส แบ่งใส่สัก 2 ครั้ง ตอนตะล่อมก็เบามือหน่อยนะคะ พอเข้ากันแล้วก็หยุดทันทีค่ะ เผลอคนนานๆ เดี๋ยวเค้กแฟ่บนะคะ

เท 1/2 ของส่วนผสมใส่ตรงกลางพิมพ์ เกลี่ยให้หน้าเรียบเสมอกันแล้วโรยหน้าด้วย 1/2 ของเบอรี่ที่เตรียมไว้ ตามด้วยส่วนผสมอีกครึ่งที่เหลือและเบอรี่ส่วนที่เหลือค่ะ  นำชีสเค้กเข้าวางชั้นที่ 2 จากล่างของเตาอบ ลดไฟเหลือ 160 องศาเซลเซียส  อบไฟบน-ล่างจนหน้าเค้กเซ็ตตัวดี ใช้เวลาอบประมาณ 50 นาทีค่ะ  เมื่อเค้กสุกทิ้งให้เย็นตัวในเตาอบอีกประมาณ 30 นาที โดยแง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาแซะออกจากขอบพิมพ์ เอาขอบพิมพ์ออกแล้วพักไว้บนตะแกรงจนเย็นอุณหภูมิห้องค่อยนำเค้กวางบนจาน นำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟนะคะ


ตอนอบเราลืมลดไฟ อบ 180 ซีไปเลย เค้กออกมาบูดๆ เบี้ยวๆ ไม่ค่อยสวยเลยค่ะ ถ้าอบ 160 ซีรับรองออกมาสวยกว่านี้แน่นอน  ได้เวลาหม่ำๆ ก็ราดซอสเบอรี่เปรี้ยวๆ หวานๆ เข้าไป อร่อยชื่นใจดีค่ะ ใครชอบชีสเค้กเปรี้ยวหวานมันอร่อยลองทำดูนะคะ



                              นิวยอร์คชีสเค้ก : New York Cheesecake

ตอนที่รื้อครัวทำใหม่เนี่ยไม่รู้ทำไมอยากกินชีสเค้กมากๆ กะว่าพอใช้ครัวได้เมื่อไรก็จะลงมือทำชีสเค้กเป็นอย่างแรกเลย แต่หลังจากใช้ครัวได้เป็นเดือนแล้วล่ะ อิชั้นก็ยังไม่มีอารมณ์จะอบขนมอยู่ดี มันเบื่อไปเฉยๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันค่ะ อยู่มาวันหนึ่ง (เชยมั้ยๆ) ไปจ่ายกับข้าวแล้วก็หยิบครีมชีสกับซาวครีมติดมาด้วย กะว่าจะทำนิวยอร์คชีสเค้กเพิ่มห่วงยางซะหน่อย ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ แม่ก็ยังขี้เกียจอยู่ จนถึงวันนี้แอบดูวันหมดอายุ กี๊ดๆๆ เหลืออีกไม่กี่วันเองเหรอเนี่ย สุดท้ายเลยต้องพยายามสลัดตัวขี้เกียจออกไปแล้วก็ลงมือทำจนได้ค่ะ

สูตรนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะจดมาจากหนังสือที่บ้านแม่ แล้วเราก็เอามาปรับนิดหน่อย คือลดครีมชีสแล้วเพิ่มซาวครีมเข้าไป ลดน้ำตาลไปพอสมควรแต่ก็ยังรู้สึกว่าหวานไปนิด แต่คุณพ่อบ้านบอกหวานกำลังดีแล้ว คงเป็นเพราะตัวเองกินไม่หวานมากด้วยมั้งคะ ภาพที่ลงเนี่ยเป็นภาพเก่าที่ทำไว้เมื่อนานมากแล้วนะคะ ที่ทำวันนี้ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะมืดตึ๊ดตื๋อ เปิดไฟแล้วก็ไม่ได้ช่วยสักเท่าไร เลยตัดสินใจเอาภาพเก่ามาแปะแทนนะคะ ของเก่าเนี่ยเราอบอบตามสูตรต้นฉบับคือ 150 องศาเซลเซียสตลอดการอบ ขอบเค้กไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ครั้งนี้อบแบบใหม่เค้กออกมาสวยงามเนียนวิ๊งเลยค่ะ

ส่วนผสมฐานครัสท์
 สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม.
  • เนยสดเย็น 20 กรัม
  • ไข่แดง 1/2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 15 กรัม
  • วานิลาเอ๊กซ์แทร็ค 3 หยด
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • แป้งอเนกประสงค์ 50 กรัม
วิธีทำ


อุ่นเตาอบไว้ที 200°C/400°F ตีเนยรวมกับไข่แดง น้ำตาลทราย วานิลา และเกลือพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน ส่วนผสมมีลักษณะเหมือนเมล็ดถั่วเขียว ระวังอย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลวไปจะคลึงลำบาก อีกอย่างเมื่ออบแล้วมันจะเหนียวเป็นปื้นๆ ไม่กรอบเท่าที่ควรค่ะ


จากนั้นก็คลึงแป้งเป็นแผ่นกลมให้ใหญ่กว่าฐานพิมพ์นิดหน่อย แล้วใช้กระดาษไขที่มีขนาดเท่าฐานพิมพ์วางบนแป้งแล้วตัดให้ได้ขนาดเดียวกัน ให้ส้อมจิ้มให้ทั่วแป้ง (หากใครชอบแป้งแบบไม่อบก่อนหลังจากนำแป้งมากรุพิมพ์แล้วก็นำไปแช่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ พอทำตัวชีสเค้กเสร็จแล้วก็นำมาราดแล้วอบพร้อมกันได้เลย) นำแป้งเข้าอบประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แล้วพักให้เย็นบนตะแกรง แล้วจึงครอบด้วยสปริงฟอร์มค่ะ อย่าลืมทาเนยรอบๆ พิมพ์แล้วโรยแป้งหรือเกล็ดขนมปังบางๆ ไว้ด้วยนะคะ อบแล้วจะได้แซะง่ายๆ ไม่ติดพิมพ์ค่ะ

ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 280 กรัม
2. ซาวครีม 50 กรัม (ส่วนนี้ใช้โยเกิร์ตธรรมชาติแทนได้ หรือจะใช้เป็นครีมชีสทั้งหมดเลยก็ได้เช่นกันค่ะ)
3. น้ำตาลทราย 80 กรัม
4. เกลือป่น 1 หยิบมือ
5. ไข่ทั้งฟอง 2 ฟอง (ขนาดกลาง)
6. ไข่แดง 1 ฟอง
7. ผิวมะนาวขูดจากมะนาว 1 ลูก
8. วิปปิ้งครีม 50 มล.
9. แป้งอเนกประสงค์ 15 กรัม
10. วานิลาเอกซ์แทร็ค 1 ชช.

วิธีทำ รูปวิธีทำนี้เป็นรูปเก่าๆ ที่เคยถ่ายไว้ตอนทำชีสเค้กสูตรอื่นๆ ค่ะ เห็นทำเหมือนๆ กันเลยขี้เกียจถ่ายใหม่ ^_^

อุ่นเตาอบไว้ที่ 200 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสกับซาวครีมด้วยความเร็วต่ำพอเนียน ใส่ไข่ น้ำตาล และเกลือลงตีพอเข้ากัน จากนั้นก็ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปตีรวมกับครีมชีสให้เข้ากันดี แล้วเทส่วนผสมใส่บนฐานครัสท์ที่กรุพิมพ์ไว้ นำพิมพ์วางบนตะแกรงตรงชั้นกลางของเตาอบ อบไฟบน-ล่าง 200 ซี 10 นาที จากนั้นลดไฟเหลือ 130 องศาซี อบต่ออีกประมาณ 60-70 นาที จนกว่าหน้าเค้กจะเซ็ตตัวดี ตรงกลางอาจจะไม่เซ็ตตัวดีเท่าขอบๆ ไม่ต้องตกใจนะคะ เมื่อเค้กเซ็ตตัวดีแล้วก็ปิดไฟ แง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อย ทิ้งเค้กไว้ให้เย็นตัวในเตาอบอีก 30 นาทีค่ะ


เมื่อครบ 30 นาที นำเค้กออกจากเตาอบวางไว้บนตะแกรงพักให้เย็นสนิทแล้วจึงถอดพิมพ์ออก วางเค้กบนจานเสิร์ฟ นำแช่เย็น 3 ชม. แล้วค่อยตัดแบ่งกันทานค่ะ จะทานเพียวๆ ทานคู่กับผลไม้สดหรือพวกซอสเบอรี่ที่เปรี้ยวๆ หวานๆ ก็อร่อยเข้ากันดีนะคะ

Cheesecake Brownies : บราวนี่ชีสเค้ก


ปกติแล้วเราไม่ได้เป็นแฟนช็อคโกแล็ตเลยค่ะ ตอนอยู่เมืองไทยเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำ ไม่กินอะไรที่มีช็อคโกแล็ตเป็นส่วนผสมเลย เพราะรู้สึกว่ารสชาติมันหวานๆ ขมๆ แปลกๆ แต่พอมาอยู่ที่นี่ซึ่งมีช็อคโกแล็ตหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม แม่สามีก็ขยันหารสแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้ลองบ่อยจนสุดท้ายก็ชอบกินเป็นบางอย่างค่ะ ส่วนเค้กช็อคโกแล็ตนี่ไม่ชอบกินเลย แต่ถ้าเป็นพวกบราวนี่แล้วใจละลายค่ะ อีกอย่างชอบกินชีสเค้กด้วย พอจับบราวนี่กับชีสเค้กมารวมกันก็เลยเป็นอะไรที่โปรดปรานสุดๆ กินจนตัวพองไปหมดแล้วค่ะ

ส่วนผสม : สำหรับถาดอบขนาด 21x28 ซม. หรือพิมพ์กลมขนาด 20 ซม.
ส่วนครีมชีส
  • ครีมชีส 300 กรัม
  • น้ำตาลทราย 60 กรัม
  • ไข่ไก่ขนาดกลาง 1 ฟอง
  • วานิลา 1/2 ชช.
  • แป้งเอนกประสงค์ 1 ชต.
  • วิปปิ้งครีม 50 มล.
ส่วนผสมบราวนี่
  • semi-sweet chocolate 200 กรัม
  • เนยเค็ม 100 กรัม
  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 90 กรัม
  • ผงกาแฟสำเร็จรูป 1 ชต. (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
  • วานิลาบัทเทอร์ 1 ชช.
  • กลิ่นอัลมอนด์ 2 หยด
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 145 กรัม
วิธีทำ

อุ่นเตาอบไว้ที่ 350F/180C. แล้วทาถาดอบด้วยเนยบางๆ ให้ทั่ว ปูกระดาษไขรองถาดด้วยก็ดีค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องปูค่ะ ทาเนยแล้วขนมไม่ติดถาดหรอก


เริ่มด้วยการทำตัวชีสเค้กก่อนนะคะ ใส่ครีมชีสนุ่มๆ ในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เนียนดี ใส่น้ำตาลทรายและไข่ไก่ คนให้เข้ากันแล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทุกอย่างลงไปคนพอเข้ากัน พักไว้ก่อนค่ะ

จากนั้นก็มาทำส่วนบราวนี่ค่ะ จัดการละลายเนยกับช็อคโกแล็ตรวมกันในไมโครเวฟด้วยไฟอ่อนสุดประมาณ 1 นาที แล้วนำออกคนถ้าหากช็อคฯ ยังละลายไม่หมดก็นำเข้าไปเวฟต่ออีกครั้งละ 20 วินาที แล้วคนจนช็อคฯ ละลายหมดค่ะ หรือหากไม่มีไมโครเวฟก็นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟพอร้อนแต่ไม่เดือด นำช็อคโกแล็ตกับเนยใส่ชามอ่างที่มีขนาดใหญ่กว่าหม้อที่ต้มน้ำ วางอ่างบนหม้อน้ำ คนเป็นครั้งคราวจนช็อคโกแล็ตละลายหมด พักให้เย็นลงประมาณ 2 นาที

ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย ผงกาแฟ เกลือ วานิลา และกลิ่นอัลมอนด์ในอ่างผสมอีกใบ คนให้เข้ากันดีแล้วค่อยๆ เทช็อคโกแล็ตเป็นสายลงในอ่างไข่ ขณะเทช็อคก็ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันไปด้วยค่ะ จากนั้นใส่แป้งลงไปคนพอเข้ากันค่ะ



เทส่วนผสมบราวนี่ครึ่งหนึ่งใส่ถาดแล้วเกลี่ยให้เรียบ จากนั้นเทส่วนครีมชีสทั้งหมดตามลงไป เกลี่ยให้ทั่วบราวนี่ สุดท้ายตักส่วนบราวนี่ที่เหลือใส่บนครีมชีสเป็นหย่อมๆ แล้วใช้ปลายมีดหรือตะเกียบคนให้เป็นลาย นำเข้าอบไฟบน-ล่างประมาณ 30 นาทีค่ะ แต่ถ้าใส่พิมพ์กลมอาจต้องอบถึง 45 นาทีค่ะ ลองสังเกตดูนะคะ ถ้าหน้าขนมเซ็ตตัวดีแล้วค่อยเอาออกจากเตาค่ะ เมื่อสังเกตเห็นชีสเค้กเซ็ตตัวดีแล้วก็ให้ใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มตรงกลางขนม หากมีเศษๆ ติดมาบ้างแบบไม่แฉะมากก็เอาขนมออกจากเตาอบได้เลยค่ะ อย่าอบนานเกินไปเดี๋ยวบราวนี่จะแห้งเกินไป ไม่อร่อยค่ะ

เมื่อนำขนมออกจากเตาอบแล้วพักให้เย็นในถาดอบประมาณ 1 ชม. แล้วค่อยตัดทานนะคะ หากรีบตัดเดี๋ยวเค้กยังไม่เซ็ตตัวดี ตัดโช๊ะไปแล้วจะเละเทะดูไม่น่ากินค่ะ

รูปนี้ใส่พิมพ์กลม อารามอยากกินรีบตัดตอนยังไม่เซ็ตตัวดี มันก็เลยไม่เรียบสวย แต่รสชาติอร่อยดีค่ะ กินแล้วไม่ค่อยติดคอเหมือนบราวนี่ธรรมดา เรางี้กินหายๆ ทุกทีเลย ลืมตัวทุกทีว่าเดี๋ยวนี้ตัวเองน่ะฉุแล้วนะ 55

ส่วนรูปล่างนี้ใช้บราวนี่สูตรเดียวกัน แต่เพิ่มน้ำตาลทรายไปอีก 10 กรัม + เฮเซลนัทอบให้หอมกรอบแล้วสับหยาบใส่ไปผสมในเนื้อบราวนี่ แล้วก็โรยหน้าด้วย ใส่ถาดอบแค่ประมาณ 20 นาทีเองค่ะ  ชอบทำจริงๆ เลยบราวนี่เนี่ย ผสมแป๊บๆ อบไม่นานก็ได้อร่อยกันล่ะ


เพื่อนๆ ที่เป็นสาวกบราวนี่ลองทำดูนะคะ เผื่อจะถูกใจ แต่ถ้าทำบราวนี่อย่างเดียวตอนหม่ำต้องเตรียมนมสักแก้วมาไว้ดื่มด้วยเน้อ ไม่งั้นติดคอไม่รู้ด้วย อิอิ  ถ้าใครลองทำก็ขอให้อร่อยๆ กันทุกคนเลยนะคะ วันนี้ไปก่อนนอนก่อนล่ะน๊า ฝันดีทุกคนค่า จุ๊บๆ

                                         Strawberry Swirl Cheesecake

ส่วนผสมฐานครัสท์ สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม.
  • เนยสดเย็น 20 กรัม
  • ไข่แดง 1/2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 15 กรัม
  • วานิลาเอ๊กซ์แทร็ค 3 หยด
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • แป้งอเนกประสงค์ 50 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบไว้ที 200°C/400°F ตีเนยรวมกับไข่แดง น้ำตาลทราย วานิลา และเกลือพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน อย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลว จากนั้นก็คลึงแป้งเป็นแผ่นกลมให้ใหญ่กว่าฐานพิมพ์นิดหน่อย แล้วใช้กระดาษไขที่มีขนาดเท่าฐานพิมพ์วางบนแป้งแล้วตัดให้ได้ขนาดเดียวกัน ให้ส้อมจิ้มให้ทั่วแป้ง นำแป้งเข้าอบประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แล้วพักให้เย็นบนตะแกรง แล้วจึงครอบด้วยสปริงฟอร์มค่ะ อย่าลืมทาเนยรอบๆ พิมพ์แล้วโรยแป้งหรือเกล็ดขนมปังบางๆ ไว้ด้วยนะคะ
ส่วนผสมซอสสตรอว์เบอรี่
1. สตรอว์เบอรี่ 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. แป้งข้าวโพด 1/2 ชต.
จัดการปั่นส่วนผสมทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด แล้วกรองผ่านตะแกรงตาถี่ ใช้ช้อนกดๆ บดๆ บีบๆ คั้นๆ มันเข้าค่ะ พอได้เนื้อได้น้ำเนียนๆ ไร้เมล็ดเล็กๆ ให้ระคายเคือง นำขึ้นตั้งไฟกลาง คนตลอดเวลาจนเดือดก็ปิดไฟ พักให้เย็นสนิท
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 300 กรัม
2. ซาวครีม 50 กรัม
3. น้ำตาลทราย 70 กรัม
4. ผิวมะนาวขูด 1/2 ชช.
5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
6. ไข่แดง 1/2 ฟองที่เหลือจากทำครัสท์
7. วิปปิ้งครีม 100 มล.
8. แป้งข้าวโพด 20 กรัม
9. วานิลา 1 ชช.
วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสกับซาวครีมพอเนียนแล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปคนให้เข้ากัน แล้วเทส่วนผสมครึ่งหนึ่งใส่บนฐานครัสท์ที่กรุพิมพ์ไว้ ตักซอสสตรอว์เบอรี่ราดเป็นหย่อมๆ แล้วเทครีมชีสอีกครึ่งที่เหลือกลบซอสให้หมด สุดท้ายตักซอสอีกครึ่งที่เหลือราดครีมเป็นหย่อมๆ แล้วคนเป็นลาย
ส่งเข้าเตาอบ อบไฟบน-ล่าง โดยวางไว้ตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 60 นาทีค่ะ พอเค้กสุกก็ปิดไฟ เปิดฝาเตาอบแง้มไว้ ทิ้งเค้กไว้ให้ เย็นตัวในเตาอบประมาณ 20-30 นาทีค่ะนำ เค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้อง แล้วก็ค่อยถอดสปริงฟอร์มออกค่ะ นำเค้กเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชม. ก่อนตัดเสิร์ฟนะคะ 
หลังแช่ชีสเค้กในตู้เย็นแล้วก็นำออกมาตัดค่ะ ในรูปเราตัดเค้กไม่เรียบเพราะรีบตัดแบ่งไปให้แม่ ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายรูปด้วย ถ้าอยากตัดเค้กให้สวยๆ ก็นำมีดที่จะใช้ตัดไปจุ่มในน้ำอุ่น เช็ดให้แห้ง แล้วจึงนำมาตัดเค้ก ทำอย่างนี้ทุกครั้งที่ตัด เค้กก็จะเรียบสวยค่ะ

                                                                      

ชีสเค้กม้าลาย : zebra cheesecake


ใครเป็นแฟนชีสเค้กเนื้อนุ่มๆ เบาๆ หอมกรุ่นกลิ่นมะนาวและโกโก้อ่อนๆ ต้องลองทำชีสเค้กนี้ดูค่ะ เราทำไป 3 รอบแล้ว ใครชิมใครก็ชอบค่ะ คนทำยังเผลอชิมไปซะตั้งหลายชิ้นแน่ะค่ะ คิคิ

ส่วนผสมฐานเค้ก สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 26 ซม.
  • เนยสด 100 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 100 กรัม
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 200 กรัม
  • ผงฟู 1 ชช.
  • เกลือ 1/4 ชช.
ส่วนผสมชีสเค้ก
  • ครีมชีส 500 กรัม
  • ซาวครีม 200 กรัม
  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 160 กรัม
  • เลมอนเอกซ์แทร็ค 1 ชช.
  • เกลือป่น 1 หยิบมือ
  • แป้งสาลีเอนกประสงค์ 35 กรัม
  • นมสด 130 มล.
  • วิปปิ้งครีม 130 มล.
  • ผงโกโก้ 2 1/2 ชต.
ส่วนผสมอื่นๆ
  • วิปปิ้งครีม 100 กรัม
  • วานิลาเอกซ์แทร็ค 2 หยด
  • ผง Sahnefest 1/2 ซอง (ถ้าไม่มีไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
  • ผงโกโก้สำหรับโรยหน้าเค้ก
วิธีทำ  

อุ่นเตาอบไว้ที่ 200 องศาเซลเซียส ทาเนยให้ทั่วสปริงฟอร์มแล้วโรยแป้งนวลบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ จากนั้นทำฐานเค้กโดยนำเนยสด ไข่ไก่ และน้ำตาลใส่อ่างผสม ตีด้วยเครื่องตีมือถือพอเนียน ใส่แป้ง ผงฟู และเกลือลงไปพรวดเดียวแล้วตี แป๊บๆ พอเข้ากันก็นำแป้งมากรุที่ฐานพิมพ์ โดยทำขอบให้ สูงจากฐานประมาณ 1 นิ้วค่ะ พักไว้ก่อนค่ะ

ทำฐานเค้กเสร็จแล้ว ต่อไปเราก็มาทำตัวชีสเค้กกัน โดยนำครีมชีสกับซาวครีมใส่อ่างผสมตีด้วยความเร็วกลางพอเนียน ใส่ไข่แดง กลิ่นมะนาวกับน้ำตาลทรายลงไปตีพอเข้ากัน ใส่แป้ง นม และวิปปิ้งครีม ลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากันก็หยุดทันที

นำไข่ขาวกับเกลือป่นใส่อ่างอีกใบ ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนก็นำไปตะล่อมกับส่วนผสมครีมชีส แบ่งใส่สัก 2 ครั้ง ตอนตะล่อมก็เบามือหน่อยนะคะ เมือไข่ขาวกับครีมชีสเข้ากันดีแล้วก็แบ่งส่วนผสมครึ่งหนึ่งใส่ชามอ่างอีกใบ เติมผงโกโก้ลงไปแล้วคนเบามือพอเข้ากันค่ะ

จากนั้นก็ใช้ช้อนซุปคันโตๆ หรือทัพพี ตักส่วนผสมสีขาวใส่กลางพิมพ์ แล้วตักส่วนโกโก้ใส่บนสีขาว ทำอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมทั้งสองสีหมด นำเข้าอบ 200 องศาเซลเซียสจนสุก ใช้เวลาอบประมาณ 50 นาทีค่ะ เมื่อเค้กสุก ทิ้งให้เย็นตัวในเตาอบอีกประมาณ 30 นาที โดย แง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาพักให้เย็นต่ออีกประมาณ 30 นาทีก่อนเอาออกจากพิมพ์ค่ะ เมื่อเอาเค้กออกจากพิมพ์แล้วก็วางไว้บนตะแกรงจนเย็นอุณหภูมิห้องค่ะ




เมื่อเค้กเย็นแล้วก็จัดการตี ครีมแต่งหน้ากันค่ะ โดยนำวิปปิ้งครีม กลิ่นวานิลา และผง Sahnesteif ใส่อ่างที่จะใช้ตี แล้วตีครีมด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 2-3 นาทีจนครีมตั้งยอดก็หยุดตีทันที แล้วครีมใส่ถุงบีบแต่งหน้าเค้กตามชอบ แล้วโรยด้วยผงโกโก้บางๆ เสร็จแล้วก็นำเค้กเข้าตู้เย็นสัก 2 ชั่วโมงก่อนตัด เราก็จะได้ชีสเค้กเนื้อนุ่มๆ หวานๆ เย็นๆ อร่อยชื่นใจมากๆ เลยค่ะ