ชีสเค้กสตรอว์เบอรี่ - มะม่วง : strawberry mango cheesecake
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 9 นิ้ว
1. แครกเกอร์ หรือ Zwieback บดละเอียด 3/4 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชต.
3. เนยสดละลาย 2 ชต.
4. เกลือป่น 1/8 ชช.
2. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชต.
3. เนยสดละลาย 2 ชต.
4. เกลือป่น 1/8 ชช.
วิธีทำก็แค่นำทุกอย่างมาผสมรวมกัน ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันจนร่วนเป็นเม็ดทราย นำไปเทใส่พิมพ์เกลี่ยให้เสมอกันแล้วกดให้เรียบแน่นทั่วฐานพิมพ์ค่ะ จากนั้นเอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ
ส่วนผสมสตรอว์เบอรี่
1. สตรอว์เบอรี่ 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. ผงเจลลี่สีแดง (Cake Glaze, red) 4 กรัม
ส่วนผสมสตรอว์เบอรี่
1. สตรอว์เบอรี่ 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. ผงเจลลี่สีแดง (Cake Glaze, red) 4 กรัม
จัดการปั่นสตรอว์เบอรี่รวมกันให้ละเอียด แล้วกรองเอาเมล็ดออก ใช้ช้อนกดๆ บดๆ บีบๆ คั้นๆ มันเข้าค่ะ พอได้เนื้อได้น้ำเนียนๆ ไร้เมล็ดเล็กๆ ให้ระคายเคืองแล้วก็ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำมะนาวลงไป ชิมรสหวานเปรี้ยวมากน้อยตามชอบ จากนั้นใส่ผงเจลลี่ลงไปคน จนผงเจลลี่ละลาย พักไว้ ก่อนค่ะ
ส่วนผสมมะม่วง
1. เนื้อมะม่วงสุก 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. ผงเจลลี่สีขาว (Cake Glaze, clear) 4 กรัม
ส่วนผสมมะม่วง
1. เนื้อมะม่วงสุก 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. ผงเจลลี่สีขาว (Cake Glaze, clear) 4 กรัม
จัดการปั่นมะม่วงให้ละเอียด แล้วกรองเอากากออก ให้ได้เนื้อได้น้ำเนียนๆ แล้วก็ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำมะนาวลงไป ชิมรสหวานเปรี้ยวมากน้อยตามชอบ จากนั้นใส่ผงเจลลี่ ลงไปคนจนผงเจลลี่ละลาย พักไว้ก่อนค่ะ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 500 กรัม
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 115 กรัม
4. น้ำตาลวานิลา 1 ซอง (8 กรัม) หรือกลิ่นวานิลา 1 ชช.
5. น้ำมันพืช 3 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 250 มล.
7. ผิวมะนาว 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 1 ซอง (37 กรัม)
วิธีทำ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 500 กรัม
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 115 กรัม
4. น้ำตาลวานิลา 1 ซอง (8 กรัม) หรือกลิ่นวานิลา 1 ชช.
5. น้ำมันพืช 3 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 250 มล.
7. ผิวมะนาว 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 1 ซอง (37 กรัม)
วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสให้เนียนแล้วใส่ไข่ลงกับผิวมะนาวลงไปตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทราย น้ำตาล วานิลลา (หรือกลิ่นวานิลา) น้ำมันพืช เฮฟวี่ครีม และผงพุดดิ้ง ตีด้วยความเร็วต่ำหรือใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน แล้วจึงเทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยค่ะ
ตักซอสสตรอว์เบอรี่สลับกับซอสมะม่วงใส่บนเค้กเป็นหย่อมๆ จนหมด แล้วใช้ปลายตะเกียบคนให้เป็นลาย ส่งเข้าเตาอบ อบไฟบน ล่าง โดยวางไว้ตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 70 นาทีค่ะ พอเค้กสุกก็ปิดไฟ เปิดฝาเตาอบแง้มไว้ ทิ้งเค้กไว้ให้ เย็นตัวในเตาอบประมาณ 20-30 นาทีค่ะ
นำเค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้อง แล้วก็ค่อยๆ แซะเค้กออกจากขอบพิมพ์ก่อนถอดสปริงฟอร์มออกค่ะ จากนั้นถ้าใครจะทำเจลลี่ราดหน้าเค้ก เพื่อความเงางามก็ทำตามนี้ค่ะ หรือถ้าไม่อยากทำก็นำเค้กเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนตัดนะคะ
ส่วนผสมเจลลี่
1. ผงเจลลี่ 1/2 ซอง (6 กรัม)
2. น้ำเย็น 125 มล.
3. น้ำตาลทราย 1/2 ชต. หรือน้ำตาลวานิลลา 4 กรัม
วิธีทำ
นำผงเจลลี่มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเย็นและน้ำตาลทรายลงไปผสม คนจนผงเจลลี่ละลาย แล้วนำตั้งไฟคนตลอดเวลา พอเดือดยกลงจากเตาค่ะ พักไว้อีกประมาณ 1-2 นาทีก่อน แล้วจึง ใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ อีกครั้งก่อนนำมาราดหน้าเค้ก จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นสักหน่อย ก็เอาเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนทานจะอร่อย ชื่นใจมากๆ เลยจ้ะ
ส่วนผสมเจลลี่
1. ผงเจลลี่ 1/2 ซอง (6 กรัม)
2. น้ำเย็น 125 มล.
3. น้ำตาลทราย 1/2 ชต. หรือน้ำตาลวานิลลา 4 กรัม
วิธีทำ
นำผงเจลลี่มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเย็นและน้ำตาลทรายลงไปผสม คนจนผงเจลลี่ละลาย แล้วนำตั้งไฟคนตลอดเวลา พอเดือดยกลงจากเตาค่ะ พักไว้อีกประมาณ 1-2 นาทีก่อน แล้วจึง ใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ อีกครั้งก่อนนำมาราดหน้าเค้ก จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นสักหน่อย ก็เอาเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนทานจะอร่อย ชื่นใจมากๆ เลยจ้ะ
เลมอนเคิร์ดชีสเค้ก : Lemon Curd Cheesecake
เลมอนเคิร์ดชีสเค้กเนี่ยเป็นชีสเค้กที่เราโปรดปรานเหลือเกิน แต่สามีและพ่อแม่กลับไม่ค่อยชอบเท่าไรค่ะ เค้าจะกินเต็มที่ก็สองชิ้นเท่านั้น ส่วนเราปลื้มที่เนื้อชีสเค้กนุ่มอร่อย ตัดกับเคิร์ดมะนาวเปรี้ยว หวาน หอม ชื่นใจมากๆ เคยทำแล้วกินคนเดียวทั้งถาดก็มีค่ะ ก็มันเพลิน แต่เราจะไม่ชอบพวกฐานชีสเค้กน่ะ ไม่ว่าจะเป็นฐานประเภทไหน เวลากินก็เขี่ยๆ มันทิ้งตลอดค่ะ
- เนยสดเย็น 30 กรัม
- ไข่ไก่ 1/2 ฟองเล็ก
- น้ำตาลทรายแดง 15 กรัม
- ผิวมะนาวขูด 1/2 ชช. หรือกลิ่นมะนาว 2-3 หยด
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- แป้งอเนกประสงค์ 60 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบไว้ที 200°C/400°F เตรียมถาดทาเนยบางๆ ให้ทั่ว แล้วปูกระดาษไขทับ จากนั้นก็หันมาตีเนยตีเนยรวมกับไข่แดง น้ำตาลทราย วานิลา และเกลือพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน อย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลว จากนั้นก็คลึงแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมให้ใหญ่เท่าฐานพิมพ์ แล้ววางแป้งที่บนถาด ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วแผ่นแป้ง นำเข้าอบประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แล้วพักให้เย็นในถาดค่ะ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 250 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
4. กลิ่นมะนาว 1/2 ชช.
5. น้ำมันพืช 1 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 100 มล.
7. ผิวมะนาวขูด 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 10 กรัม
วิธีทำ
1. ครีมชีส 250 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
4. กลิ่นมะนาว 1/2 ชช.
5. น้ำมันพืช 1 ชต.
6. เฮฟวี่ครีม 100 มล.
7. ผิวมะนาวขูด 1 ชช.
8. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 10 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสด้วยความเร็วต่ำให้เนียน จากนั้นจึงใส่ไข่ น้ำตาลทราย และกลิ่นมะนาวลงไปตีรวมกัน สุดท้ายใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตีแค่พอเข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยแล้วปาดให้เรียบเสมอกันดีค่ะ
ส่งเข้าเตาอบ อบไฟบน-ล่างจนหน้าเค้กเซ็ตตัวดี ใช้เวลาอบประมาณ 40 นาทีค่ะ พอสุกก็เอาชีสเค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้องค่ะ ระหว่างที่รอเค้กเย็นเราก็ไปทำเลมอนเคิร์ดไว้ราดหน้าเค้กกันนะคะ
ส่วนผสมเลมอนเคิร์ด
1. ไข่แดง 2 ฟอง
2. ไข่ทั้งฟอง 1 ฟอง
3. น้ำมะนาว 60 มล.
4. ผิวมะนาวขูดจากมะนาว 1 ลูก
5. น้ำตาลทราย 65 กรัม
6. เนยเค็ม 40 กรัม
1. ไข่แดง 2 ฟอง
2. ไข่ทั้งฟอง 1 ฟอง
3. น้ำมะนาว 60 มล.
4. ผิวมะนาวขูดจากมะนาว 1 ลูก
5. น้ำตาลทราย 65 กรัม
6. เนยเค็ม 40 กรัม
นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้ร้อนจนเดือดแล้วลดไฟอ่อนสุด ใส่ไข่ น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายลงในอ่างผสม นำอ่างวางบนหม้อน้ำร้อน (วิธีเดียวกับ double boiler) ใช้ตะตร้อมือคนส่วนผสมตลอดเวลา คนไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ จนส่วนผสมกลายเป็นครีมข้น ใช้เวลาประมาณ 8-10 นาทีค่ะ จากนั้นยกลงจากเตา เทใส่กระชอนกรองทันทีเพื่อให้เนื้อเนียน กรองแล้วใส่เนยและผิวมะนาวขูดลงไปคนให้เนยละลายหมด แล้วใช้พลาสติกแร็ปหน้าเคิร์ดไว้ นำเข้าตู้เย็นรอให้ชีสเค้กเย็นสนิทแล้วจึงนำเคิร์ดมาราดหน้าชีสเค้กค่ะ
เมื่อราดหน้าชีสเค้กด้วยเคิร์ดแล้วก็นำไปเข้าตู้เย็นไว้สัก 2 ชม. เพื่อให้เคิร์ดเซ็ตตัวก่อนนำออกมาตัด จะทำให้ตัดได้เรียบสวยดูน่าทานนะคะ หากรีบตัดก่อนรับรองเลอะเทอะเปรอะเปื้อนแน่นอนค่ะ
ใครลองทำก็ขอให้อร่อยๆ กันทุกคนนะคะ หากทำแล้วผลที่ได้ออกมาถูกใจหรือไม่ชอบยังไงกระซิบบอกกันมั่งก็ดีค่ะ เพราะถ้ารู้ว่าโพสท์แล้วมีคนลองทำตามเจ้าของบล็อกจะได้มีแรงอัพเดทบ่อยๆ นะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวรู้สึกว่าบ้านร้างก็จะพาลขี้เกียจอัพไปเลยค่ะ เมี้ยวๆ
ชีสเค้กมะม่วง : mango cheesecake
ชีสเค้กนี้เราทำใส่พิมพ์มัฟฟินที่ทำจากซิลิโคน ได้ทั้งหมด 6 อันนะคะ ชอบที่มันอันเล็ก ๆ น่ารักดีค่ะ สะดวกเวลาทานด้วย เอาออกจากพิมพ์ก็ง่ายมากๆ เลยค่ะ ถ้าใครไม่มีพิมพ์ซิลิโคนก็ทำใส่สปริงฟอร์มขนาด 7 นิ้วได้นะคะ มาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
1. แครกเกอร์ หรือ Zwieback บดละเอียด 1/2 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชต.
3. เนยสดละลาย 1 1/2 ชต.
4. เกลือป่น 1 หยิบมือ
วิธีทำ
1. แครกเกอร์ หรือ Zwieback บดละเอียด 1/2 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1/2 ชต.
3. เนยสดละลาย 1 1/2 ชต.
4. เกลือป่น 1 หยิบมือ
วิธีทำ
แค่นำทุกอย่างมาผสมรวมกัน ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันจนร่วนเป็นเม็ดทราย แล้วนำไปเทใส่พิมพ์ (ถ้าเป็นสปริงฟอร์มก็ทาเนยบางๆ ให้ทั่วพิมพ์แล้วโรยขนมปังป่นหรือแป้งบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ด้วยนะคะ) เกลี่ยให้เสมอกันแล้วกดให้เรียบแน่นทั่วฐานพิมพ์ค่ะ จากนั้นเอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 300 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 60 กรัม
4. โยเกิร์ตธรรมชาติ 2 ชต.
5. กลิ่นวานิลา 1/4 ชช.
6. เฮฟวี่ครีม 150 มล.
7. น้ำมันพืช 1 ชต.
8. ผงพุดดิ้ง (รสวานิลา) 18 กรัม (ถ้าไม่มีใช้แป้งเค้ก 2 ชต. ค่ะ)
ส่วนผสมซอสมะม่วง
1. มะม่วงสุก บดละเอียดแล้วคั้นเอากากออก 100 กรัม
3. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
4. น้ำมะนาว 1 ชช.
5. ผงเจลลี่ (Tortenguß, klar) 3 กรัม
วิธีทำ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 300 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำตาลทราย 60 กรัม
4. โยเกิร์ตธรรมชาติ 2 ชต.
5. กลิ่นวานิลา 1/4 ชช.
6. เฮฟวี่ครีม 150 มล.
7. น้ำมันพืช 1 ชต.
8. ผงพุดดิ้ง (รสวานิลา) 18 กรัม (ถ้าไม่มีใช้แป้งเค้ก 2 ชต. ค่ะ)
ส่วนผสมซอสมะม่วง
1. มะม่วงสุก บดละเอียดแล้วคั้นเอากากออก 100 กรัม
3. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
4. น้ำมะนาว 1 ชช.
5. ผงเจลลี่ (Tortenguß, klar) 3 กรัม
วิธีทำ
ผสมมะม่วงสุกที่คั้นเอากากออกแล้วกับน้ำตาลทรายและน้ำมะนาวคนให้เข้ากัน ชิมรสหวานเปรี้ยวมากน้อยตามชอบ จากนั้นใส่ผงเจลลี่ลงไปคน ให้ละลาย นำขึ้นตั้งไฟคนตลอดเวลาพอร้อนก็ปิดไฟ พักไว้ก่อนค่ะ
วิธีทำ
วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 175 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสให้เนียนด้วยความเร็วปานกลางค่ะ เมื่อครีมชีสเนียนดีแล้วก็่ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปตีจนน้ำตาลหมด แล้วจึงใส่ไข่ลงไปตีให้เข้ากัน ใส่โยเกิร์ต กลิ่นวานิลา เฮฟวี่ครีม น้ำมันพืช และผงพุดดิ้ง (หรือแป้งเค้ก) ลงไป ใช้ความเร็วต่ำสุดตีแป๊บเดียวแค่พอเข้ากัน (ใครจะใช้ตะกร้อมือ คนให้เข้ากันก็ได้นะคะ) แล้วจึงเทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยค่ะ
ตักซอสมะม่วงหยอดบนเค้กเป็นหย่อม ๆ แล้วใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้ปลายแหลมคนให้เป็นลายตามชอบ นำเข้าอบไฟบน - ล่าง โดย วางไว้ตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 30-35 นาทีค่ะ (สำหรับสปริงฟอร์มใช้เวลาอบประมาณ 45-50 นาทีค่ะ)
พอสุกนำเค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้องแล้วค่อยเอาเค้กออกจากพิมพ์นะคะ จากนั้นเราก็ไปทำเจลลี่ราดหน้าเค้ก ซึ่งขั้นตอนนี้ จริงๆ จะไม่ทำก็ได้ แต่ทำก็ดีเพื่อความเงางามค่ะ ส่วนผสมนะคะ
ส่วนผสมเจลลี่
1. ผงเจลลี่ 1/2 ซอง (6 กรัม)
2. น้ำเย็น 125 ลิตร
3. น้ำตาลวานิลา 1/2 ชต.
วิธีทำ
ส่วนผสมเจลลี่
1. ผงเจลลี่ 1/2 ซอง (6 กรัม)
2. น้ำเย็น 125 ลิตร
3. น้ำตาลวานิลา 1/2 ชต.
วิธีทำ
นำผงเจลลี่มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเย็น และน้ำตาลวานิลาลงไปผสม คนจนผงเจลลี่ละลายหมด แล้วนำตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนตลอดเวลาจนเดือด ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็นตัวลงประมาณ 1 นาทีก่อน แล้วจึงใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ อีกครั้ง ก่อนนำมาราดหน้าเค้ก จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นอุณหภูมิห้องก็เอาเข้าตู้เย็นสัก 2 ชม. ก่อนทานจะอร่อยมาก ๆ เลยค่ะ
ซูเฟล่ชีสเค้กญี่ปุ่น : Japanese Soufflé Cheesecake
ซูเฟล่ชีสเค้กญี่ปุ่น สูตร 1
เราเคยทำซูเฟล่มาหลายสูตรแล้ว แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า 2 สูตรนี้รสชาติออกมาถูกปากถูกใจมากที่สุดค่ะ ทำก็ง่ายแสนง่ายใช้เวลาผสมแป๊บๆ ก็เสร็จแล้ว แต่ตอนอบนี่รอเงกเลยค่ะ แง่มๆ ถึงต้องรอนานยังไงผลงานหลังจากที่อบเสร็จแล้วก็คุ้มค่าแก่การรอคอยค่ะ อร่อยมากๆ เราเคยเผลอกินคนเดียวทั้งก้อนหมดในวันเดียวเลยด้วย พุงห้อยแล้วห้อยอีก ไม่เจียมตัวเลยจริงๆ
ส่วนผสมสูตร 1 สำหรับสปริงฟอร์มหรือพิมพ์กลมขนาด 18 ซม.
- ครีมชีส 120 กรัม
- เนยสด 20 กรัม
- นมสด 40 มล.
- แป้งเค้ก 40 กรัม
- น้ำตาลทรายป่น ก.50 กรัม
- น้ำส้มคั้น 1/2 ชต.
- ผิวส้มขูดฝอย 1/2 ชช.
- เกลือ 1/4 ชช.
- ไข่แดง 3 ฟอง
- ไข่ขาว 3 ฟอง
- น้ำมะนาว 1/2 ชช.
- น้ำตาลทรายป่น ข. 20 กรัม
- แยมแอพริคอท 1 ชต.
วิธีทำ ตัดกระดาษไขรองก้นและขอบ พิมพ์ด้านในให้ทั่วเพื่อกันเค้กติดพิมพ์ แล้วใช้กระดาษฟลอยด์หุ้มพิมพ์ให้ทั่วกันน้ำเข้าตอนอบด้วยค่ะ อุ่นเตาอบ ไว้ที่ 160 องศาเซลเซียส นำถาดอบหรือชามทนไฟขนาดใหญ่กว่าพิมพ์เค้กใส่น้ำประมาณ 500 มล. วางในเตาอบด้วยค่ะ
ละลายครีมชีส เนย และนมสดรวมกันในไมโครเวฟ คนให้เข้ากันดี พักไว้ให้อุ่นลงหน่อย เทแป้งใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล ก. ลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ทำบ่อตรงกลาง เทไข่แดง น้ำส้มคั้น ผิวส้มขูด เกลือ และส่วนผสมครีมชีสที่ละลายไว้แล้วลงไปในบ่อแป้ง คนเร็ว ๆ พอส่วนผสมเข้ากันก็หยุดค่ะ ห้ามคนนานนะคะ
ตีไข่ขาวพอเริ่มฟู ใส่น้ำมะนาว ตีจนเป็นโฟมแล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาล ข. ทีละน้อย ตีจนน้ำตาลหมด ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและมีฟองที่ละเอียดมาก แบ่งไข่ขาวมาตะล่อมในส่วนผสมแป้ง แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง ตะล่อมเบามือด้วยตะกร้อมือหรือพายยางให้ส่วนผสมเข้ากันดี เราใช้ตะกร้อมือผสมไข่ขาวกับส่วนผสมอื่นพอเริ่มเข้ากันก่อน แล้วจึงใช้พายยางตะล่อมวนส่วนผสมก้นอ่างให้เข้ากันดีอีกสัก 3-4 ครั้งค่ะ
เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำพิมพ์เข้าอบโดยวางในถาดใส่น้ำ หรือถ้ากลัวน้ำเข้าแล้วก้นเค้กจะแฉะก็วางพิมพ์บนตะแกรงแล้ววางถาดใส่น้ำไว้ บนพื้นเตาอบก็ได้ค่ะประมาณ 60 นาที โดยวางพิมพ์ไว้ชั้นที่สองจากล่างของเตา อบไฟล่างอย่างเดียว 40 นาที และอีก 20 นาทีสุดท้ายอบไฟบน-ล่างค่ะเช็คสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมทิ่มตรงกลาง ถ้าไม่มีเศษแป้งติดมาก็ใช้ได้ค่ะ
นำออกมาจากเตาอบแล้วเอาเค้กออกจากพิมพ์ ทันที เพราะถ้าปล่อยให้เย็นคาพิมพ์เค้กจะยุบลงเยอะเลยนะคะ วางเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นอุณภูมิห้องค่ะ จากนั้นนำแยมแอพริคอทผสมน้ำนิดหน่อยตั้งไฟอ่อน คนให้เนียน แล้วนำมาทาหน้าเค้กค่ะ จะได้ขึ้นเงาสวยงามน่ากิน ก่อนเอาเข้าตู้เย็นสัก 1 ชม. ก่อนตัดทาน แต่เราไม่เคยได้ใส่เลยค่ะ เย็นปุ๊บเจี๊ยะปั๊บตลอด อิอิ
ซูเฟล่ชีสเค้กญี่ปุ่น สูตร2
หรือใครจะลองสูตรนี้ก็ได้ค่ะ เค้กออกมานุ่มฟูอร่อยกินเพลินเหมือนกันเลย ดูเหมือนสูตรนี้จะฟูกว่าสูตรแรกหน่อยๆ ด้วยค่ะ เราค่อนข้างจะชอบสูตรนี้มากกว่าสูตรแรกนิดๆ ด้วย วิธีเตรียมส่วนผสม วิธีผสมและเวลาอบจะทำเหมือนสูตรแรกทุกประการนะคะ แต่สูตร 2 นี้ตีไข่ขาวกับเกลือและน้ำตาลทราย ข. ค่ะ
ส่วนผสมสูตร 2 สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม.
- ครีมชีส อุณหภูมิห้อง 90 กรัม
- เนยนุ่มๆ 30 กรัม
- นมสด 100 มล.
- น้ำตาลทรายป่น (ก) 40 กรัม
- ไข่แดง 3 ฟอง
- น้ำมะนาว 1 ชต.
- วานิลา 1/2 ชช.
- แป้งเค้ก 30 กรัม
- ไข่ขาว 3 ฟอง
- น้ำตาลทรายป่น (ข) 30 กรัม
- เกลือ 1 หยิบมือ
- แยมแอพริคอท 1 ชต.
วิธีทำ ตัดกระดาษไขรองก้นและขอบพิมพ์ด้านในให้ทั่วเพื่อกันเค้กติดพิมพ์ แล้วใช้กระดาษฟลอยด์หุ้มพิมพ์ให้ทั่วกันน้ำเข้าตอนอบด้วยค่ะ อุ่นเตาอบไว้ที่ 160 องศาเซลเซียส นำถาดอบหรือชามทนไฟขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ใส่น้ำประมาณ 500 มล. วางในเตาอบด้วยค่ะ
ละลายครีมชีส เนย และนมสดรวมกันในไมโครเวฟ คนให้เข้ากันดี พักไว้ให้อุ่นลงหน่อย เทแป้งใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาล ก. ลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน ทำบ่อตรงกลาง เทไข่แดง น้ำมะนาว วานิลา และส่วนผสมครีมชีสที่ละลายไว้แล้วลงไปในบ่อแป้ง คนเร็ว ๆ พอส่วนผสมเข้ากันก็หยุดค่ะ ห้ามคนนานนะคะ
ตีไข่ขาวกับเกลือพอเริ่มฟูแล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาล ข. ทีละน้อย ตีจนน้ำตาลหมด ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและมีฟองที่ละเอียดมาก แบ่งไข่ขาวมาตะล่อมในส่วนผสมแป้ง แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง ตะล่อมเบามือด้วยตะกร้อมือหรือพายยางให้ส่วนผสมเข้ากันดี
เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำพิมพ์เข้าอบโดยวางในถาดใส่น้ำ หรือถ้ากลัวน้ำเข้าแล้วก้นเค้กจะแฉะก็วางพิมพ์บนตะแกรงแล้ววางถาดใส่น้ำไว้บนพื้นเตาอบก็ได้ค่ะประมาณ 60 นาที โดยวางพิมพ์ไว้ชั้นที่สองจากล่างของเตา อบไฟล่างอย่างเดียว 40 นาที และอีก 20 นาทีสุดท้ายอบไฟบน-ล่างค่ะเช็คสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมทิ่มตรงกลาง ถ้าไม่มีเศษแป้งติดมาก็ใช้ได้ค่ะ
เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำพิมพ์เข้าอบโดยวางในถาดใส่น้ำ หรือถ้ากลัวน้ำเข้าแล้วก้นเค้กจะแฉะก็วางพิมพ์บนตะแกรงแล้ววางถาดใส่น้ำไว้บนพื้นเตาอบก็ได้ค่ะประมาณ 60 นาที โดยวางพิมพ์ไว้ชั้นที่สองจากล่างของเตา อบไฟล่างอย่างเดียว 40 นาที และอีก 20 นาทีสุดท้ายอบไฟบน-ล่างค่ะเช็คสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมทิ่มตรงกลาง ถ้าไม่มีเศษแป้งติดมาก็ใช้ได้ค่ะ
นำออกมาจากเตาอบ แล้วเอาเค้กออกจากพิมพ์ทันที เพราะถ้าปล่อยให้เย็นคาพิมพ์เค้กจะยุบลงเยอะเลยนะคะ วางเค้กไว้บนตะแกรงให้เย็นอุณภูมิห้องค่ะ จากนั้นนำแยมแอพริคอทผสมน้ำนิดหน่อยตั้งไฟอ่อน คนให้เนียน แล้วนำมาทาหน้าเค้กค่ะ จะได้ขึ้นเงาสวยงามน่ากิน ก่อนเอาเข้าตู้เย็นสัก 1-2 ชม. ก่อนตัดทานนะคะ
ชีสเค้กหน้าผลไม้ : mix fruit cheesecake
ช่วงนี้กำลังบ้าเค้กหน้าผลไม้ค่ะ เพราะผลไม้กำลังออกเยอะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วทำทาร์ตส่วนวันนี้เปลี่ยนเป็นชีสเค้กค่ะ แต่ทำไปฝากเพื่อนน่ะค่ะ ไม่ได้ทานเอง ทำเสร็จเสียดายมากว่าจะไม่ให้แล้ว ฮ่าๆๆ มาดูส่วนผสมกันนะคะ (อ้อ..ถ้าใครหาส่วนผสมตามที่บอกไม่ได้ ก็ใช้สูตรชีสเค้กที่เคยทำ แล้วออกมาดีและชอบแทนก็ได้นะคะ)ก่อนอื่นเตรียมพิมพ์ขนาด 9 นิ้ว ทาเนยบางๆ ให้ทั่วพิมพ์แล้วโรยแป้ง หรือขนมปังป่นบางๆ ให้ทั่วพิมพ์เลยค่ะ
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
1. Rusk (Zwieback) บดละเอียด 1 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1 ชต.
3. เนยสดละลาย 3 ชต.
4. เกลือป่น 1/8 ชช.
1. Rusk (Zwieback) บดละเอียด 1 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายแดง 1 ชต.
3. เนยสดละลาย 3 ชต.
4. เกลือป่น 1/8 ชช.
วิธีทำก็แค่นำทุกอย่างมาผสมรวมกัน ใช้ไม้พายคนให้เข้ากันจนร่วนเป็นเม็ดทราย แล้วนำไปเทใส่พิมพ์ เกลี่ยให้เสมอกันแล้วกดให้เรียบแน่นทั่วฐานพิมพ์ค่ะ จากนั้นเอาไปใส่ตู้เย็นไว้ก่อนนะคะ แล้วเราก็ไปทำตัวชีสเค้กกันค่ะ อ้อ...อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 C ด้วยนะคะ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 500 กรัม
2. โยเกิร์ตธรรมชาติ 1/4 ถ้วย
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำตาลทราย 115 กรัม
5. น้ำตาลวานิลา 1 ซอง (8 กรัม)
6. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
7. เฮฟวี่ครีม 250 มล.
8. ผิวมะนาว 1 ชช.
9. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 1 ซอง (37 กรัม)
วิธีทำ
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 500 กรัม
2. โยเกิร์ตธรรมชาติ 1/4 ถ้วย
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำตาลทราย 115 กรัม
5. น้ำตาลวานิลา 1 ซอง (8 กรัม)
6. น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย
7. เฮฟวี่ครีม 250 มล.
8. ผิวมะนาว 1 ชช.
9. ผงวานิลลาพุดดิ้ง 1 ซอง (37 กรัม)
วิธีทำ
อุ่นเตาอบ 180 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสให้เนียนแล้วใส่ไข่ลงไปตีให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตีให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่กรุฐานไว้เรียบร้อยแล้วส่งเข้าเตาอบ ใช้เวลา ประมาณ 1 ชม. ค่ะ ถ้าเตาอบที่บ้านไฟแรงพออบสัก 50 นาทีแล้วต้องเช็คดูนิดนึงค่ะ พอสุกก็ปิดไฟแง้มฝาเตาอบไว้ ทิ้งไว้ในเตาอบอีกประมาณ 15-30 นาทีค่ะ
จากนั้นนำเค้กออกมาพักบนตะแกรง พออุ่นก็ถอดพิมพ์แล้วปล่อยให้เย็นอุณหภูมิห้อง จากนั้นนำเค้กเข้าตู้เย็นไว้สัก 1 ชม. ก่อนนำออกมาแต่ง หน้าด้วยผลไม้ค่ะ
ส่วนผสมหน้าเค้ก
1. ผลไม้ตามชอบ
2. ผงเจลลี่ 1 ซอง (12 กรัม)
3. น้ำเย็น 1/4 ลิตร
4. น้ำตาลทราย 1 ชต. หรือน้ำตาลวานิลลา 1 ซอง (8 กรัม)
วิธีทำ
ส่วนผสมหน้าเค้ก
1. ผลไม้ตามชอบ
2. ผงเจลลี่ 1 ซอง (12 กรัม)
3. น้ำเย็น 1/4 ลิตร
4. น้ำตาลทราย 1 ชต. หรือน้ำตาลวานิลลา 1 ซอง (8 กรัม)
วิธีทำ
จัดการล้างและหั่นผลไม้ที่เราจะใช้แต่งหน้าเค้ก แล้วจัดเรียงตามชอบค่ะ เสร็จแล้วก็นำผงเจลลี่มาเทใส่หม้อ ใส่น้ำเย็นไปผสม 1/4 ลิตร และน้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ คนจนผงเจลลี่ละลาย แล้วนำตั้งไฟคนตลอดเวลา ปล่อยให้เดือดประมาณ 1 นาที แล้วยกลงจากเตาค่ะ พักไว้อีกประมาณ 1 นาทีก่อน แล้วจึงใช้ตะกร้อมือคนแรงๆ อีกครั้งก่อนนำมาราดหน้าเค้ก จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นสักหน่อยก็เอาเข้าตู้เย็นสัก 1-2 ชม. ก่อนทานจะอร่อยมากๆ เลยค่ะ