เบอรี่ชีสเค้ก : Berry Cheesecake
เมื่อวานคุณ aiwnoi ถามหาสูตรบลูเบอรี่ชีสเค้ก วันนี้เราเลยจัดให้ตามคำขอ แต่พอดีมีบลูเบอรี่และเรดเคอเรนท์แช่แข็งอยู่ เลยใส่ไปทั้งสองอย่างซะ ออกมาเปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ นุ่มๆ เบาๆ อร่อยดีค่ะ คุณ aiwnoi ชอบบลูเบอลี่ก็ใส่แค่บลูเบอลี่อย่างเดียวได้นะคะ มาดูสูตรเลยค่ะ
ส่วนผสมฐานเค้ก สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม.
- เนยสดนุ่มๆ 40 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 25 กรัม
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ 80 กรัม
- เกลือ 1 หยิบมือ
- วานิลา 1/4 ชช.
ส่วนผสมชีสเค้ก
- ครีมชีสนุ่มๆ 300 กรัม
- แป้งเค้ก 20 กรัม
- วานิลา 1 ชช.
- วิปปิ้งครีม 80 กรัม
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
- ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 1 ฟอง (แยกขาว-แดง)
- ไวท์ช็อคโกแล็ต 60 กรัม
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- บลูเบอรี่กับเรดเคอเรนท์ 60 กรัม
อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส ทาเนยให้ทั่วสปริงฟอร์มแล้วโรยแป้งนวลบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ค่ะ
จากนั้นทำฐานเค้กโดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่อ่างผสม ใช้มีดหรือช้อนส้อมสับให้เข้ากันจนแป้งมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่วเขียว นำแป้งมาคลึงเป็นแผ่นกลมขนาดเท่าฐานพิมพ์แล้วนำไปกรุพิมพ์ ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่ว แล้วนำไปใส่ตู้เย็นพักไว้ก่อนค่ะ
ทำฐานเค้กเสร็จแล้วเราก็มาทำตัวชีสเค้กกันค่ะ โดยนำไวท์ช็อคโกแล็ตไปละลายในไมโครเวฟ พักไว้ก่อน จากนั้นนำครีมชีส, แป้งเค้ก, ไข่แดง, น้ำตาลทราย 30 กรัม, วานิลา และวิปปิ้งครีมใส่อ่างผสม ตีด้วยความเร็วกลางพอเข้ากัน เทช็อคโกแล็ตที่ละลายไว้ใส่ลงไปคนพอเข้ากันค่ะ
นำไข่ขาวกับเกลือป่นใส่ชามอ่างอีกใบ ตีด้วยความเร็วต่ำจนเป็นฟองแล้วใส่น้ำตาลทราย 10 กรัมที่เหลือลงไปตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน นำไปตะล่อมรวมกับส่วนผสมครีมชีส แบ่งใส่สัก 2 ครั้ง ตอนตะล่อมก็เบามือหน่อยนะคะ พอเข้ากันแล้วก็หยุดทันทีค่ะ เผลอคนนานๆ เดี๋ยวเค้กแฟ่บนะคะ
เท 1/2 ของส่วนผสมใส่ตรงกลางพิมพ์ เกลี่ยให้หน้าเรียบเสมอกันแล้วโรยหน้าด้วย 1/2 ของเบอรี่ที่เตรียมไว้ ตามด้วยส่วนผสมอีกครึ่งที่เหลือและเบอรี่ส่วนที่เหลือค่ะ นำชีสเค้กเข้าวางชั้นที่ 2 จากล่างของเตาอบ ลดไฟเหลือ 160 องศาเซลเซียส อบไฟบน-ล่างจนหน้าเค้กเซ็ตตัวดี ใช้เวลาอบประมาณ 50 นาทีค่ะ เมื่อเค้กสุกทิ้งให้เย็นตัวในเตาอบอีกประมาณ 30 นาที โดยแง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาแซะออกจากขอบพิมพ์ เอาขอบพิมพ์ออกแล้วพักไว้บนตะแกรงจนเย็นอุณหภูมิห้องค่อยนำเค้กวางบนจาน นำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟนะคะ
ตอนอบเราลืมลดไฟ อบ 180 ซีไปเลย เค้กออกมาบูดๆ เบี้ยวๆ ไม่ค่อยสวยเลยค่ะ ถ้าอบ 160 ซีรับรองออกมาสวยกว่านี้แน่นอน ได้เวลาหม่ำๆ ก็ราดซอสเบอรี่เปรี้ยวๆ หวานๆ เข้าไป อร่อยชื่นใจดีค่ะ ใครชอบชีสเค้กเปรี้ยวหวานมันอร่อยลองทำดูนะคะ
นิวยอร์คชีสเค้ก : New York Cheesecake
สูตรนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะจดมาจากหนังสือที่บ้านแม่ แล้วเราก็เอามาปรับนิดหน่อย คือลดครีมชีสแล้วเพิ่มซาวครีมเข้าไป ลดน้ำตาลไปพอสมควรแต่ก็ยังรู้สึกว่าหวานไปนิด แต่คุณพ่อบ้านบอกหวานกำลังดีแล้ว คงเป็นเพราะตัวเองกินไม่หวานมากด้วยมั้งคะ ภาพที่ลงเนี่ยเป็นภาพเก่าที่ทำไว้เมื่อนานมากแล้วนะคะ ที่ทำวันนี้ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะมืดตึ๊ดตื๋อ เปิดไฟแล้วก็ไม่ได้ช่วยสักเท่าไร เลยตัดสินใจเอาภาพเก่ามาแปะแทนนะคะ ของเก่าเนี่ยเราอบอบตามสูตรต้นฉบับคือ 150 องศาเซลเซียสตลอดการอบ ขอบเค้กไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ครั้งนี้อบแบบใหม่เค้กออกมาสวยงามเนียนวิ๊งเลยค่ะ
ส่วนผสมฐานครัสท์ สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม.
- เนยสดเย็น 20 กรัม
- ไข่แดง 1/2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 15 กรัม
- วานิลาเอ๊กซ์แทร็ค 3 หยด
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- แป้งอเนกประสงค์ 50 กรัม
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 280 กรัม
2. ซาวครีม 50 กรัม (ส่วนนี้ใช้โยเกิร์ตธรรมชาติแทนได้ หรือจะใช้เป็นครีมชีสทั้งหมดเลยก็ได้เช่นกันค่ะ)
3. น้ำตาลทราย 80 กรัม
4. เกลือป่น 1 หยิบมือ
5. ไข่ทั้งฟอง 2 ฟอง (ขนาดกลาง)
6. ไข่แดง 1 ฟอง
7. ผิวมะนาวขูดจากมะนาว 1 ลูก
8. วิปปิ้งครีม 50 มล.
9. แป้งอเนกประสงค์ 15 กรัม
10. วานิลาเอกซ์แทร็ค 1 ชช.
วิธีทำ รูปวิธีทำนี้เป็นรูปเก่าๆ ที่เคยถ่ายไว้ตอนทำชีสเค้กสูตรอื่นๆ ค่ะ เห็นทำเหมือนๆ กันเลยขี้เกียจถ่ายใหม่ ^_^
Cheesecake Brownies : บราวนี่ชีสเค้ก
ปกติแล้วเราไม่ได้เป็นแฟนช็อคโกแล็ตเลยค่ะ ตอนอยู่เมืองไทยเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำ ไม่กินอะไรที่มีช็อคโกแล็ตเป็นส่วนผสมเลย เพราะรู้สึกว่ารสชาติมันหวานๆ ขมๆ แปลกๆ แต่พอมาอยู่ที่นี่ซึ่งมีช็อคโกแล็ตหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม แม่สามีก็ขยันหารสแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้ลองบ่อยจนสุดท้ายก็ชอบกินเป็นบางอย่างค่ะ ส่วนเค้กช็อคโกแล็ตนี่ไม่ชอบกินเลย แต่ถ้าเป็นพวกบราวนี่แล้วใจละลายค่ะ อีกอย่างชอบกินชีสเค้กด้วย พอจับบราวนี่กับชีสเค้กมารวมกันก็เลยเป็นอะไรที่โปรดปรานสุดๆ กินจนตัวพองไปหมดแล้วค่ะ
ส่วนผสม : สำหรับถาดอบขนาด 21x28 ซม. หรือพิมพ์กลมขนาด 20 ซม.
ส่วนครีมชีส
- ครีมชีส 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
- ไข่ไก่ขนาดกลาง 1 ฟอง
- วานิลา 1/2 ชช.
- แป้งเอนกประสงค์ 1 ชต.
- วิปปิ้งครีม 50 มล.
- semi-sweet chocolate 200 กรัม
- เนยเค็ม 100 กรัม
- ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
- ผงกาแฟสำเร็จรูป 1 ชต. (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
- วานิลาบัทเทอร์ 1 ชช.
- กลิ่นอัลมอนด์ 2 หยด
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 145 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบไว้ที่ 350F/180C. แล้วทาถาดอบด้วยเนยบางๆ ให้ทั่ว ปูกระดาษไขรองถาดด้วยก็ดีค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องปูค่ะ ทาเนยแล้วขนมไม่ติดถาดหรอก
เริ่มด้วยการทำตัวชีสเค้กก่อนนะคะ ใส่ครีมชีสนุ่มๆ ในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เนียนดี ใส่น้ำตาลทรายและไข่ไก่ คนให้เข้ากันแล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทุกอย่างลงไปคนพอเข้ากัน พักไว้ก่อนค่ะ
จากนั้นก็มาทำส่วนบราวนี่ค่ะ จัดการละลายเนยกับช็อคโกแล็ตรวมกันในไมโครเวฟด้วยไฟอ่อนสุดประมาณ 1 นาที แล้วนำออกคนถ้าหากช็อคฯ ยังละลายไม่หมดก็นำเข้าไปเวฟต่ออีกครั้งละ 20 วินาที แล้วคนจนช็อคฯ ละลายหมดค่ะ หรือหากไม่มีไมโครเวฟก็นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟพอร้อนแต่ไม่เดือด นำช็อคโกแล็ตกับเนยใส่ชามอ่างที่มีขนาดใหญ่กว่าหม้อที่ต้มน้ำ วางอ่างบนหม้อน้ำ คนเป็นครั้งคราวจนช็อคโกแล็ตละลายหมด พักให้เย็นลงประมาณ 2 นาที
ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย ผงกาแฟ เกลือ วานิลา และกลิ่นอัลมอนด์ในอ่างผสมอีกใบ คนให้เข้ากันดีแล้วค่อยๆ เทช็อคโกแล็ตเป็นสายลงในอ่างไข่ ขณะเทช็อคก็ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันไปด้วยค่ะ จากนั้นใส่แป้งลงไปคนพอเข้ากันค่ะ
เทส่วนผสมบราวนี่ครึ่งหนึ่งใส่ถาดแล้วเกลี่ยให้เรียบ จากนั้นเทส่วนครีมชีสทั้งหมดตามลงไป เกลี่ยให้ทั่วบราวนี่ สุดท้ายตักส่วนบราวนี่ที่เหลือใส่บนครีมชีสเป็นหย่อมๆ แล้วใช้ปลายมีดหรือตะเกียบคนให้เป็นลาย นำเข้าอบไฟบน-ล่างประมาณ 30 นาทีค่ะ แต่ถ้าใส่พิมพ์กลมอาจต้องอบถึง 45 นาทีค่ะ ลองสังเกตดูนะคะ ถ้าหน้าขนมเซ็ตตัวดีแล้วค่อยเอาออกจากเตาค่ะ เมื่อสังเกตเห็นชีสเค้กเซ็ตตัวดีแล้วก็ให้ใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มตรงกลางขนม หากมีเศษๆ ติดมาบ้างแบบไม่แฉะมากก็เอาขนมออกจากเตาอบได้เลยค่ะ อย่าอบนานเกินไปเดี๋ยวบราวนี่จะแห้งเกินไป ไม่อร่อยค่ะ
เมื่อนำขนมออกจากเตาอบแล้วพักให้เย็นในถาดอบประมาณ 1 ชม. แล้วค่อยตัดทานนะคะ หากรีบตัดเดี๋ยวเค้กยังไม่เซ็ตตัวดี ตัดโช๊ะไปแล้วจะเละเทะดูไม่น่ากินค่ะ
รูปนี้ใส่พิมพ์กลม อารามอยากกินรีบตัดตอนยังไม่เซ็ตตัวดี มันก็เลยไม่เรียบสวย แต่รสชาติอร่อยดีค่ะ กินแล้วไม่ค่อยติดคอเหมือนบราวนี่ธรรมดา เรางี้กินหายๆ ทุกทีเลย ลืมตัวทุกทีว่าเดี๋ยวนี้ตัวเองน่ะฉุแล้วนะ 55
ส่วนรูปล่างนี้ใช้บราวนี่สูตรเดียวกัน แต่เพิ่มน้ำตาลทรายไปอีก 10 กรัม + เฮเซลนัทอบให้หอมกรอบแล้วสับหยาบใส่ไปผสมในเนื้อบราวนี่ แล้วก็โรยหน้าด้วย ใส่ถาดอบแค่ประมาณ 20 นาทีเองค่ะ ชอบทำจริงๆ เลยบราวนี่เนี่ย ผสมแป๊บๆ อบไม่นานก็ได้อร่อยกันล่ะ
อุ่นเตาอบไว้ที่ 350F/180C. แล้วทาถาดอบด้วยเนยบางๆ ให้ทั่ว ปูกระดาษไขรองถาดด้วยก็ดีค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องปูค่ะ ทาเนยแล้วขนมไม่ติดถาดหรอก
เริ่มด้วยการทำตัวชีสเค้กก่อนนะคะ ใส่ครีมชีสนุ่มๆ ในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เนียนดี ใส่น้ำตาลทรายและไข่ไก่ คนให้เข้ากันแล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทุกอย่างลงไปคนพอเข้ากัน พักไว้ก่อนค่ะ
จากนั้นก็มาทำส่วนบราวนี่ค่ะ จัดการละลายเนยกับช็อคโกแล็ตรวมกันในไมโครเวฟด้วยไฟอ่อนสุดประมาณ 1 นาที แล้วนำออกคนถ้าหากช็อคฯ ยังละลายไม่หมดก็นำเข้าไปเวฟต่ออีกครั้งละ 20 วินาที แล้วคนจนช็อคฯ ละลายหมดค่ะ หรือหากไม่มีไมโครเวฟก็นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟพอร้อนแต่ไม่เดือด นำช็อคโกแล็ตกับเนยใส่ชามอ่างที่มีขนาดใหญ่กว่าหม้อที่ต้มน้ำ วางอ่างบนหม้อน้ำ คนเป็นครั้งคราวจนช็อคโกแล็ตละลายหมด พักให้เย็นลงประมาณ 2 นาที
ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย ผงกาแฟ เกลือ วานิลา และกลิ่นอัลมอนด์ในอ่างผสมอีกใบ คนให้เข้ากันดีแล้วค่อยๆ เทช็อคโกแล็ตเป็นสายลงในอ่างไข่ ขณะเทช็อคก็ใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมให้เข้ากันไปด้วยค่ะ จากนั้นใส่แป้งลงไปคนพอเข้ากันค่ะ
เทส่วนผสมบราวนี่ครึ่งหนึ่งใส่ถาดแล้วเกลี่ยให้เรียบ จากนั้นเทส่วนครีมชีสทั้งหมดตามลงไป เกลี่ยให้ทั่วบราวนี่ สุดท้ายตักส่วนบราวนี่ที่เหลือใส่บนครีมชีสเป็นหย่อมๆ แล้วใช้ปลายมีดหรือตะเกียบคนให้เป็นลาย นำเข้าอบไฟบน-ล่างประมาณ 30 นาทีค่ะ แต่ถ้าใส่พิมพ์กลมอาจต้องอบถึง 45 นาทีค่ะ ลองสังเกตดูนะคะ ถ้าหน้าขนมเซ็ตตัวดีแล้วค่อยเอาออกจากเตาค่ะ เมื่อสังเกตเห็นชีสเค้กเซ็ตตัวดีแล้วก็ให้ใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มตรงกลางขนม หากมีเศษๆ ติดมาบ้างแบบไม่แฉะมากก็เอาขนมออกจากเตาอบได้เลยค่ะ อย่าอบนานเกินไปเดี๋ยวบราวนี่จะแห้งเกินไป ไม่อร่อยค่ะ
เมื่อนำขนมออกจากเตาอบแล้วพักให้เย็นในถาดอบประมาณ 1 ชม. แล้วค่อยตัดทานนะคะ หากรีบตัดเดี๋ยวเค้กยังไม่เซ็ตตัวดี ตัดโช๊ะไปแล้วจะเละเทะดูไม่น่ากินค่ะ
รูปนี้ใส่พิมพ์กลม อารามอยากกินรีบตัดตอนยังไม่เซ็ตตัวดี มันก็เลยไม่เรียบสวย แต่รสชาติอร่อยดีค่ะ กินแล้วไม่ค่อยติดคอเหมือนบราวนี่ธรรมดา เรางี้กินหายๆ ทุกทีเลย ลืมตัวทุกทีว่าเดี๋ยวนี้ตัวเองน่ะฉุแล้วนะ 55
เพื่อนๆ ที่เป็นสาวกบราวนี่ลองทำดูนะคะ เผื่อจะถูกใจ แต่ถ้าทำบราวนี่อย่างเดียวตอนหม่ำต้องเตรียมนมสักแก้วมาไว้ดื่มด้วยเน้อ ไม่งั้นติดคอไม่รู้ด้วย อิอิ ถ้าใครลองทำก็ขอให้อร่อยๆ กันทุกคนเลยนะคะ วันนี้ไปก่อนนอนก่อนล่ะน๊า ฝันดีทุกคนค่า จุ๊บๆ
Strawberry Swirl Cheesecake
ส่วนผสมฐานครัสท์ สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 18 ซม.- เนยสดเย็น 20 กรัม
- ไข่แดง 1/2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 15 กรัม
- วานิลาเอ๊กซ์แทร็ค 3 หยด
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- แป้งอเนกประสงค์ 50 กรัม
วิธีทำ
อุ่นเตาอบไว้ที 200°C/400°F ตีเนยรวมกับไข่แดง น้ำตาลทราย วานิลา และเกลือพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน อย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลว จากนั้นก็คลึงแป้งเป็นแผ่นกลมให้ใหญ่กว่าฐานพิมพ์นิดหน่อย แล้วใช้กระดาษไขที่มีขนาดเท่าฐานพิมพ์วางบนแป้งแล้วตัดให้ได้ขนาดเดียวกัน ให้ส้อมจิ้มให้ทั่วแป้ง นำแป้งเข้าอบประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แล้วพักให้เย็นบนตะแกรง แล้วจึงครอบด้วยสปริงฟอร์มค่ะ อย่าลืมทาเนยรอบๆ พิมพ์แล้วโรยแป้งหรือเกล็ดขนมปังบางๆ ไว้ด้วยนะคะ
อุ่นเตาอบไว้ที 200°C/400°F ตีเนยรวมกับไข่แดง น้ำตาลทราย วานิลา และเกลือพอเข้ากัน แล้วใส่แป้งลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน อย่าตีนานนะคะเดี๋๋ยวแป้งเหลว จากนั้นก็คลึงแป้งเป็นแผ่นกลมให้ใหญ่กว่าฐานพิมพ์นิดหน่อย แล้วใช้กระดาษไขที่มีขนาดเท่าฐานพิมพ์วางบนแป้งแล้วตัดให้ได้ขนาดเดียวกัน ให้ส้อมจิ้มให้ทั่วแป้ง นำแป้งเข้าอบประมาณ 10 นาที หรือจนกว่าจะมีสีน้ำตาลสวยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาอบ แล้วพักให้เย็นบนตะแกรง แล้วจึงครอบด้วยสปริงฟอร์มค่ะ อย่าลืมทาเนยรอบๆ พิมพ์แล้วโรยแป้งหรือเกล็ดขนมปังบางๆ ไว้ด้วยนะคะส่วนผสมซอสสตรอว์เบอรี่
1. สตรอว์เบอรี่ 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. แป้งข้าวโพด 1/2 ชต.
1. สตรอว์เบอรี่ 100 กรัม
2. น้ำตาลทราย 10 กรัม หรือมากน้อยตามชอบค่ะ
3. น้ำมะนาว 1 ชช.
4. แป้งข้าวโพด 1/2 ชต.
จัดการปั่นส่วนผสมทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด แล้วกรองผ่านตะแกรงตาถี่ ใช้ช้อนกดๆ บดๆ บีบๆ คั้นๆ มันเข้าค่ะ พอได้เนื้อได้น้ำเนียนๆ ไร้เมล็ดเล็กๆ ให้ระคายเคือง นำขึ้นตั้งไฟกลาง คนตลอดเวลาจนเดือดก็ปิดไฟ พักให้เย็นสนิท
ส่วนผสมชีสเค้ก
1. ครีมชีส 300 กรัม
2. ซาวครีม 50 กรัม
3. น้ำตาลทราย 70 กรัม
4. ผิวมะนาวขูด 1/2 ชช.
5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
6. ไข่แดง 1/2 ฟองที่เหลือจากทำครัสท์
7. วิปปิ้งครีม 100 มล.
8. แป้งข้าวโพด 20 กรัม
9. วานิลา 1 ชช.
วิธีทำ1. ครีมชีส 300 กรัม
2. ซาวครีม 50 กรัม
3. น้ำตาลทราย 70 กรัม
4. ผิวมะนาวขูด 1/2 ชช.
5. ไข่ไก่ 1 ฟอง
6. ไข่แดง 1/2 ฟองที่เหลือจากทำครัสท์
7. วิปปิ้งครีม 100 มล.
8. แป้งข้าวโพด 20 กรัม
9. วานิลา 1 ชช.
อุ่นเตาอบ 170 องศาเซลเซียส ตีครีมชีสกับซาวครีมพอเนียนแล้วใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปคนให้เข้ากัน แล้วเทส่วนผสมครึ่งหนึ่งใส่บนฐานครัสท์ที่กรุพิมพ์ไว้ ตักซอสสตรอว์เบอรี่ราดเป็นหย่อมๆ แล้วเทครีมชีสอีกครึ่งที่เหลือกลบซอสให้หมด สุดท้ายตักซอสอีกครึ่งที่เหลือราดครีมเป็นหย่อมๆ แล้วคนเป็นลาย
ส่งเข้าเตาอบ อบไฟบน-ล่าง โดยวางไว้ตรงชั้นกลางของเตาอบนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 60 นาทีค่ะ พอเค้กสุกก็ปิดไฟ เปิดฝาเตาอบแง้มไว้ ทิ้งเค้กไว้ให้ เย็นตัวในเตาอบประมาณ 20-30 นาทีค่ะนำ เค้กออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นอุณหภูมิห้อง แล้วก็ค่อยถอดสปริงฟอร์มออกค่ะ นำเค้กเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชม. ก่อนตัดเสิร์ฟนะคะ
หลังแช่ชีสเค้กในตู้เย็นแล้วก็นำออกมาตัดค่ะ ในรูปเราตัดเค้กไม่เรียบเพราะรีบตัดแบ่งไปให้แม่ ไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายรูปด้วย ถ้าอยากตัดเค้กให้สวยๆ ก็นำมีดที่จะใช้ตัดไปจุ่มในน้ำอุ่น เช็ดให้แห้ง แล้วจึงนำมาตัดเค้ก ทำอย่างนี้ทุกครั้งที่ตัด เค้กก็จะเรียบสวยค่ะ
ชีสเค้กม้าลาย : zebra cheesecake
ใครเป็นแฟนชีสเค้กเนื้อนุ่มๆ เบาๆ หอมกรุ่นกลิ่นมะนาวและโกโก้อ่อนๆ ต้องลองทำชีสเค้กนี้ดูค่ะ เราทำไป 3 รอบแล้ว ใครชิมใครก็ชอบค่ะ คนทำยังเผลอชิมไปซะตั้งหลายชิ้นแน่ะค่ะ คิคิ
ส่วนผสมฐานเค้ก สำหรับสปริงฟอร์มขนาด 26 ซม.
- เนยสด 100 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ 200 กรัม
- ผงฟู 1 ชช.
- เกลือ 1/4 ชช.
ส่วนผสมชีสเค้ก
- ครีมชีส 500 กรัม
- ซาวครีม 200 กรัม
- ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 160 กรัม
- เลมอนเอกซ์แทร็ค 1 ชช.
- เกลือป่น 1 หยิบมือ
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ 35 กรัม
- นมสด 130 มล.
- วิปปิ้งครีม 130 มล.
- ผงโกโก้ 2 1/2 ชต.
ส่วนผสมอื่นๆ
- วิปปิ้งครีม 100 กรัม
- วานิลาเอกซ์แทร็ค 2 หยด
- ผง Sahnefest 1/2 ซอง (ถ้าไม่มีไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
- ผงโกโก้สำหรับโรยหน้าเค้ก
วิธีทำ
อุ่นเตาอบไว้ที่ 200 องศาเซลเซียส ทาเนยให้ทั่วสปริงฟอร์มแล้วโรยแป้งนวลบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ จากนั้นทำฐานเค้กโดยนำเนยสด ไข่ไก่ และน้ำตาลใส่อ่างผสม ตีด้วยเครื่องตีมือถือพอเนียน ใส่แป้ง ผงฟู และเกลือลงไปพรวดเดียวแล้วตี แป๊บๆ พอเข้ากันก็นำแป้งมากรุที่ฐานพิมพ์ โดยทำขอบให้ สูงจากฐานประมาณ 1 นิ้วค่ะ พักไว้ก่อนค่ะ
ทำฐานเค้กเสร็จแล้ว ต่อไปเราก็มาทำตัวชีสเค้กกัน โดยนำครีมชีสกับซาวครีมใส่อ่างผสมตีด้วยความเร็วกลางพอเนียน ใส่ไข่แดง กลิ่นมะนาวกับน้ำตาลทรายลงไปตีพอเข้ากัน ใส่แป้ง นม และวิปปิ้งครีม ลงไปตีด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากันก็หยุดทันที
จากนั้นก็ใช้ช้อนซุปคันโตๆ หรือทัพพี ตักส่วนผสมสีขาวใส่กลางพิมพ์ แล้วตักส่วนโกโก้ใส่บนสีขาว ทำอย่างนี้สลับกันไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมทั้งสองสีหมด นำเข้าอบ 200 องศาเซลเซียสจนสุก ใช้เวลาอบประมาณ 50 นาทีค่ะ เมื่อเค้กสุก ทิ้งให้เย็นตัวในเตาอบอีกประมาณ 30 นาที โดย แง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อยค่ะ จากนั้นนำออกจากเตาพักให้เย็นต่ออีกประมาณ 30 นาทีก่อนเอาออกจากพิมพ์ค่ะ เมื่อเอาเค้กออกจากพิมพ์แล้วก็วางไว้บนตะแกรงจนเย็นอุณหภูมิห้องค่ะ
เมื่อเค้กเย็นแล้วก็จัดการตี ครีมแต่งหน้ากันค่ะ โดยนำวิปปิ้งครีม กลิ่นวานิลา และผง Sahnesteif ใส่อ่างที่จะใช้ตี แล้วตีครีมด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 2-3 นาทีจนครีมตั้งยอดก็หยุดตีทันที แล้วครีมใส่ถุงบีบแต่งหน้าเค้กตามชอบ แล้วโรยด้วยผงโกโก้บางๆ เสร็จแล้วก็นำเค้กเข้าตู้เย็นสัก 2 ชั่วโมงก่อนตัด เราก็จะได้ชีสเค้กเนื้อนุ่มๆ หวานๆ เย็นๆ อร่อยชื่นใจมากๆ เลยค่ะ










All stuffs on this blog are copyright of varithorn@blogspot.com Please contact Me before using my texts & photographs. Thanks!
ตอบลบถ้าไม่มีซาวครีมสามารถใช้ส่วนผสมอะไรแทนคะได้บ้างคะ?
ตอบลบ