หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

เค้ก / คัพเค้ก / มัฟฟิน (*_*)

บลูเบอรี่มัฟฟิน
บลูเบอรี่มัฟฟิน


บลูเบอรี่มัฟฟิน

 ทำได้แล้วคะ ที่บอกว่าทำได้แล้วเนี่ยก็บลูเบอรี่มัฟฟินไงจ๊ะ เฮ่อ!^^”
 ขอถอนหายใจหนึ่งที อิอิ.. เพราะได้สูตรจาก cook book มาทีไรก็มีแต่สูตรหลอก ๆ 
ทั้งนั้นทำแล้วทานมะได้ ล่าสุดทำมัฟฟินช็อคโกแลตคะ  กินไม่ได้เลย ทั้งขมทั้งจืด 
จนต้องนำมาแปลสภาพเป็นช็อคบอล ไว้จะนำสูตรมาลงให้นะจ๊ะ และกว่าจะทำสำเร็จ
พยายามหาสูตรที่ลงตัวอย่างมากคะ  มันดูเหมือนง่าย แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดน้า...
สำหรับสูตรนี้ส้มได้มาจากคุณปุ้ยคะ ขอบคุณมากนะจ๊ะสำหรับสูตรอร่อย ๆ 
สูตรนี้ไม่ค่อยยุ่งยากเท่าไหร่และใช้ส่วนผสมไม่มากด้วยคะ เพื่อน ๆ ลองทำทานกันดูนะจ๊ะ



ส่วนผสมคะ
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)

 1.  แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ว่าว)   1+½  ถ้วยตวง
 2.  น้ำตาลทราย     ¾  ถ้วยตวง
 3.  ผงฟู      1+½  ช้อนชา
 4.  เนยสด      75  กรัม
 5.  เกลือป่น      ½  ช้อนชา
 6.  นมสด      1/3  ถ้วยตวง
 7.  ไข่ไก่      1  ฟอง
 8.  วนิลา      1  ช้อนชา
 9.  บลูเบอรี่กระป๋อง (หรือบลูเบอรี่สด)  ½  ถ้วยตวง
ลุยกันเลยจ้า...
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 1.  เริ่มจากเตรียมเนยก่อนคะ 75 กรัม นำมาละลายด้วยไมโครเวฟ หรือจะนำไปตั้งไฟให้เนยละลายก็ได้จ้า..  จากนั้นพักไว้ก่อน
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 2.  จากนั้นนำส่วนของ ๆ แห้งทั้งหมด อันได้แก่ แป้งสาลี  เกลือ  ผงฟู  น้ำตาลทราย ตวงตามน้ำหนักและใส่ชามไว้(ไม่ต้องร่อนนะจ๊ะ)  จากนั้นใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากันจ้า.. เสร็จแล้วพักไว้ก่อนคะ
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
  3.  เตรียมถ้วยกระดาษ หรือถ้วยมัฟฟิ่น(ถ้ามี) ไว้เลยคะ สำหรับถ้วยส้มใช้เบอร์เดิมคะ^^” แบบว่ามีอยู่เบอร์เดียวอะ คือ 2616 ทำได้ประมาณ 19 ถ้วยนะจ๊ะ และก็วอล์มเตาอบไว้ด้วยคะ ไฟล่างอย่างเดียว 200 องศาเซลเซียสจ้า..
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 4.  นำไข่ไก่ผสมกับนม ให้เข้ากันแบบนี้นะจ๊ะ
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 5.  จากนั้นก็เทใส่ลงไปในส่วยของแป้งได้เลยจ้า
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 6.  เทเนยละลาย ตามลงไปอยู่ด้วยกันจ้า..
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 7.  คนส่วนผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือเลยคะ  (อย่าคนนานนะ มัฟฟินถ้าคนนานจะแป้งเหนียว และหนัก ๆ คะม่ายอาหย่อยอิอิ..^^”)
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 8.  ใส่บลูเบอรี่ลงไปเลยจ้า.. (ถ้ามีบลูเบอรี่สดก็สามารถใช้แทนได้นะจ๊ะ)
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 9.  คนส่วนผสมให้พอเข้ากันอีกครั้งคะ (แป๊บเดียวน้า..เดี๋ยวแป้งจะเหนียว) จากนั้นตักใส่ถ้วยกระดาษเลยจ้า.. ประมาณ ¾ ถ้วยคะ
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
  10.  นำเข้าเตาอบเลยจ้า.. ไฟ 200 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่าง 20 นาที แล้วต่อด้วยไฟบน – ล่างอีก 5 นาทีคะ (อันนี้ขึ้นอยู่กับเตาอบของแต่ละบ้านด้วยน้า..) เพราะฉะนั้นเวลาอบ ซัก 18 นาทีลองดูก่อนว่าได้รึยัง อบนานเดี๋ยวจะไหม้
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 11.  สุกแล้วจ้า..หอมมาเชียว นำออกจากพิมพ์พักไว้บนตะแกรงให้อุ่น ๆ น้า จากนั้นก็หม่ำได้เลยคะ
บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)   บลูเบอรี่มัฟฟิน (Blueberry muffins)
 12.  จากนั้นจัดเสริฟคะ  ทานกับน้ำชาหรือทานเป็นอาหารเช้าก็อาหย่อย.. ดูเนื้อด้านในน้า..หอม ๆ ฉ่ำ ๆเนย รสชาดออกหวานอมเปรี้ยวตัดกับซอสบลูเบอรี่ และเข้ากันดีกันเนื้อขนมเลยจ้า.. ซักชิ้นไม๊จ๊ะ อิอิ..
 Marble Butter Cake (สูตรที่ 1)
Marble Butter Cake (สูตรที่ 1)


Marble Butter Cake (สูตรที่ 1)

 วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาทำเค้กเนยเก็บไว้กินนาน ๆ
กันบ้างดีกว่าคะ เค้กสูตรนี้เป็นสูตรคุณ JumJeeคะ ขอบคุณนะจ๊ะ (ส้มเอามาดัดแปลงนิดหน่อย)  จิง ๆ 
สูตรเค้กเนยหรือ Marble Cake ของส้มยังมีอีกสูตรคะ ยังไม่ได้ทดลองทำไว้คราวหน้าจะทำให้ดูกันนะจ๊ะ  
สำหรับสูตรนี้เค้กที่ได้หอมเนย ไม่หวานมาก เนื้อนุ่มดีด้วย (ฉบับเพิ่มเติมจ้า...)




ส่วนผสมคะ (ทำออกมาได้เค้ก 2 ปอนด์)
Marble Butter Cake

  เนยสด(เค็ม)  150 กรัม
  เกลือป่น   ½ ชช.
  น้ำตาลทรายป่น  170 กรัม
  ไข่ไก่   3 ฟอง (เบอร์ 2 )
  แป้งเค้ก   170 กรัม
  ผงฟู   2 ช้อนชา
  วนิลา   2 ช้อนชา
  นมสด   100 กรัม
ส่วนของช็อคโกแล็ต
-  ผงโกโก้   1  ช้อนโต๊ะ
-  เนยสดละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
ลุยกันเลย
     Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
1.  นำแป้งเค้ก และผงฟู  ร่อนให้เข้ากันคะ (อย่างน้อย 3 ครั้ง)

       Marble Butter Cake   Marble Butter Cake 
2. ชั่งเนยสด(เนยยังเย็นอยู่นะจ๊ะ) 150 กรัม จากนั้นนำเนยสดมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่โถ ตามด้วยเกลือป่นคะ

       Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
3.  เตรียมน้ำตาลทรายป่น และนมสด รอไว้ด้วยคะ

 Marble Butter Cake
4.  เตรียมไข่ไก่ (อย่าลืมตีไข่ไก่ให้เหมือนกับไข่เจียวไว้ด้วยนะจ๊ะ 
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
5.  จากนั้นนำเนยที่เตรียมไว้ (ขอย้ำว่าเนยต้องเย็น ๆ แต่ไม่ใช่แข็งจ๊ะ)ไม่งั้นเนื้อเค้กที่เนื้อจะหยาบบ (ข้าพเจ้าโดนมาแล้ว ^-^ ) ตีเนยด้วยความเร็วต่ำ ไล่ไปเรื่อย ๆ ถึงความเร็วสูง ประมาณ 2 นาที
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
      
6.  ตีจนเนียน แต่ไม่เหลวคะ เนื้อของเนยยังเย็นอยู่ (ในภาพเหลวไปนิดนึง ^^) จากนั้นค่อย ๆ ใส่สน้ำตาลป่นลวงไปคะ เครื่องยังคงตีด้วยความเร็วสูงอยู่นะจ๊ะ ทำไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลหมด
Marble Butter Cake
7.  จะได้เนื้อครีมฟูเบา  สีออกนวล ๆ จ๊ะ
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
8.  จากนั้นเริ่มใส่ไข่ไก่ลงไปเลยจ้า..โดยค่อย ๆ เทลงไปเป็นสาย ทีละน้อย ๆ เพื่อเค้กจะได้เนียน ๆ นะจ๊ะ ในขณะที่เทก็เปิดเครื่องตีไปด้วย ความเร็วสูงเหมือนเดิมมม
Marble Butter Cake
9.  ตีผสมให้เข้ากันจนไข่หมดคะ จะได้ส่วนผสมเนียน ๆ  จากนั้นให้เริ่มวอล์มเตาอบที่ 160 ไฟล่างคะ
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake

      
10.  นำแป้งผสมลงไปในส่วนผสมคะ โดยค่อย ๆ แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วนคะ ใส่ส่วนที่ 1 ก่อน
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake 
11. จากนั้นตะล่อมแป้งให้เข้ากันคะ ตามด้วยนม (นมก็ให้แบ่งเป็น 3 ส่วนเช่นกัน) ใส่สลับกันนะจ๊ะ แป้ง นม แป้ง นม จนหมด
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
     
12.  จากนั้นนำส่วนผสมของแป้ง มาแบ่งเป็น 2 ส่วนคะ
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
13. นำส่วนของช็อคโกแลต ที่ทำเตรียมไว้เทใส่ลงไปในส่วนของแป้ง ส่วนที่ 1 คะ จากนั้นตะล่อมให้เข้ากัน (หอมมากอิอิ) [[โดยนำผงโกโก้คนให้เข้ากัยเนยสดละลาย ]]
Marble Butter Cake 
14. จะได้เนื้อเค้กช็อคโกแลตแบบนี้นะจ๊ะ
Marble Butter Cake
 
15. เตรียมพิมพ์ไว้เลยคะ วันนี้เราใช้พิมพ์ขนมปัง (loaf) แต่ของส้มเป็นพิมพ์ฟอล์ยคะ ไม่ต้องทาไขมันนะจ๊ะ(ถ้าใช้พิมพ์ตัวนี้) แต่ถ้าใช้พิมพ์ขนมปังทั่ว ๆ ไปให้ทาเนยขาวที่พิมพ์ แล้วรองกระดาษไขคะ หรือจะใช้พิมพ์กลมขนาด 2 ปอนด์ก็ได้คะ

 Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
16.  เริ่มใส่เค้กลงไปคะ เริ่มจากชั้นที่ 1 เค้กเนย ตามด้วยเค้กช็อคโกแลต และตามด้วยเค้กเนย (ใส่สลับ ๆ กันไปคะประมาณ 2/3 ของพิมพ์คะ)
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
17.  จากนั้นำพายยางมาปาดหน้าเค้กให้เสมอกันคะ
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake   
18.  ใช้มืดปลายแหลมหรือว่าตะเกียบก็ได้คะ หรือถ้าไม่มีก็ไม้จิ้มฟัน  ไม้เสียบลูกชิ้น จิ้มเข้าไปแล้วก็วน ๆ ๆ เป็นเลข 8 ซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง
Marble Butter Cake  Marble Butter Cake
19. นำเข้าเตาอบคะ ไฟล่าง 180 องศาเซลเซียสประมาณ 40-50 นาทีคะ เช็คเค้กสุกโดยใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มไปตรงกลางเค้กแล้วไม่มีเศษเค้กติดขึ้นมานะจ๊ะ
Marble Butter Cake   Marble Butter Cake
20. แฮ่ ๆ รู้สึกว่าจะเกรียมไปนิดดดนึง อิอิ นำมาสไลด์ดูหน่อยคะ (สไลด์เค้กหนาประมาณ 1 นิ้วคะ แพ็คใส่ถุงแกงก็ได้นะจ๊ะ ถุงละชิ้นแช่เย็นไว้ทานนาน ๆ )
Marble Butter Cake  Marble Butter Cake
21. นุ่ม ชุ่มช่ำ และหอมเนยคะ จะให้อร่อยก็แช่เย็น (เค้าว่ากันว่าเค้กเนยยิ่งนานยิ่งอร่อย อิอิ..) สักชิ้นไม๋จ๊ะ  ที่เหลือส้มปิดกล่องจากนั้นนำเข้าช่องฟรีซคะ เก็บได้เป็นเดือนเลยยย

Flourless Chocolate Cake

Flourless Chocolate Cake

 เค้กเย็น แบบเค้กช็อคโกแลตรสชาติเข้มข้น มาอีกแล้วคะ 
ทำไม่ยาก แต่เอาออกจากพิมพ์ยากนิดนึง เหมาะกับการทานกับวิปปิ้งครีม หรือซอสผลไม้ 
หรือจะทานเปล่า ๆ ก็อร่อยคะ สูตรมาจากหนังสือ DELICIOUS  CAKES ของคุณ วราภา
(สัตยบุตร) ปองเงิน  ขอบอกไว้ก่อนว่าอย่าทานมากนะจ๊ะ ระวังจะผอม ^^ อิอิ

ส่วนผสม มีไม่เยอะคะ

Flourless Chocolate Cake
  1.  ไข่ไก่แช่เย็น     4 ฟอง
  2.  ดาร์กช็อกโกแลต (Bttersweet)  300 กรัม
  3.  เนยสดชนิดจืด    180 กรัม
  4.  ผงโกโก้สำหรับโรยหน้า ใครไม่ชอบอาจใช้โอวันติน ไมโลแทนได้คะ
 ลุยกันเลย
  1. อุ่นเตาที่อุณหภูมิ 165 องศาฯ จากนั้นเตรียมพิมพ์คะ ใช้พิมพ์เข็มขัด ขนาด 8 นิ้ว รองด้วยกระดาษไขทาเนยขาว ก้นพิมพ์ห่อด้วยฟอยล์ 2 ชั้นกันน้ำซึมเข้าคะ  อย่างลืมต้มน้ำร้อนรอไว้ด้วยนะจ๊ะ^^
Flourless Chocolate Cake
   2. ไข่ไก่แช่เย็น ใช้หัวตีตะกร้อตีด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 5 นาที สังเกตได้ จากปริมาณไข่จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เนื้อไข่เป็นสีเหลืองนวล ๆ คะ  จากนั้นพักไว้ก่อน
Flourless Chocolate Cake  Flourless Chocolate Cake
Flourless Chocolate Cake
   3.  ตุ๋นช็อกโกแลตกับเนยเข้าด้วยกัน คนจนช็อกโกแลตกับเลยละลายให้หมดนะจ๊ะ ไม่อยากบอกว่าหอมมมม มาก^^  จากนั้นยกลงจากเตาคนต่อคนคลายความร้อน ถ้าใครมีเทอร์โมมิเตอร์ลองวัดดู อุณหภูมิอยู่ที่ 46 องศาเซลเซียสคะ (แต่ส้มไม่มีเลยกะเอาแบบนิ้วจุ่มลงไป จะรู้สึกยังร้อนแต่ไม่ลวกมือ ^^’ )
Flourless Chocolate Cake  Flourless Chocolate Cake
Flourless Chocolate Cake
   4.  ไข่ที่เราตีไว้คะ  ใช้พายยางแบ่งไข่ในข้อ 2 ประมาณ 3 ส่วน ตะล่อมลงไปใส่ช็อกโกแลต ทำเบา ๆ จนส่วนผสมหมดและเข้ากันดี (ยากนิดนึง^^) พยายามตะล่อมให้ถึงก้นชามนะจ๊ะ
Flourless Chocolate Cake  Flourless Chocolate Cake
Flourless Chocolate Cake
   5.  นำพิมพ์ที่เตรียมไว้ วางในถาดอบ จากนั้นเทส่วนผสมในข้อที่ 4 ลงไปในพิมพ์ ใช้พายยางเกลี่ยหน้าให้เรียบ
Flourless Chocolate Cake  Flourless Chocolate Cake
Flourless Chocolate Cake
   6.  เทน้ำร้อนใส่ถาดที่รองพิมพ์ไว้สูงประมาณ 1 ใน 3 ของพิมพ์ (ขั้นตอนนี้ให้ระวังด้วย^^ ) จากนั้นนำเข้าเตาอบ ๆ นานประมาณ 25-30 นาที  เค้กที่ได้มีลักษณะฟูขึ้นเล็กน้อย ผิวเค้กแห้งคล้ายหน้าบราวนี่เวลาสุก  จากนั้นนำมาพักในตะแกรงให้เค้กเย็น
Flourless Chocolate Cake  Flourless Chocolate Cake
Flourless Chocolate Cake
   7.  เมื่อเค้กเย็นใช้ฟอยล์ปิดหน้าเค้กแล้วนำแช่ตู้เย็นทั้งพิมพ์ประมาณ 1 คืน
Flourless Chocolate Cake

   8.  นำเค้กออกจากพิมพ์ โดยใช้มีดจุ่มน้ำร้อน กรีดรอบ ๆ พิมพ์เข็มขัด จากนั้นปลดตัวล็อคออก (ใจเย็น ๆ นะจ๊ะ^^) แต่ถ้าไม่สำเร็จให้หาผ้าชุบน้ำร้อนบิดหมาด ๆ เช็ดร้อบ ๆ พิมพ์ แล้วคว่ำเค้กลงบนถาด หรือจานรองเค้ก ดึงกระดาษไขออกจากก้นเค้ก  จากนั้นหงายเค้กขึ้น โรยผงโกโก้ก่อนรับประทาน
Flourless Chocolate Cake  Flourless Chocolate Cake

   9.  การตัดเค้ก ให้ใช้มีดจุ่มน้ำร้อนก่อนตัดเค้ก เค้กจะเรียบเนียนคะ ^^
Flourless Chocolate Cake


Black Forest Cake

 

Black Forest Cake

Black Forest Cake

 มาแล้วจ้าเค้กยอดนิยมที่มีต้นกำเนิดในประเทศเยอรมนี  
ถึงหน้าตามันจะดูไม่ค่อยเหมือน Black Forest Cake สักเท่าไหร่^^  
แต่ขอบอกว่ารสชาดอร่อยมาก เค้กนุ่ม แถมทำไม่ยากอีกคะ  สูตรนี้ก็มาจาก Cook Book เล่มโปรดอีกแล้ว
(ขอยกให้เป็นเล่มโปรดจิง ๆ เพราะทำแล้วไม่ผิดหวัง) Cook Book เล่มนี้เป็นเล่มเดียวกับที่ลงสูตร
Very Chocolate Brownies คือ Cook Book ของคุณ วราภา (สัตยบุตร) ปองเงิน  แต่เค้กสูตรนี้ 
ส้มตัดแปลงนิดหน่อยคะ ตรงที่เอาสตอเบอรี่ สดใส่ลงไปด้วย ส้มจะขอแยกการทำเป็น 4 ส่วนนะจ๊ะ
เพื่อน ๆ จะได้เข้าใจง่าย ถ้าไงลองทำดูนะค่ะ



black forest cake
ส่วนที่ 1 ตัวเค้ก วันนี้ทำสปันจ์เค้กรสช็อกโกแลต (ไม่ยากคะ)
ส่วนผสม
 1. แป้งเค้ก   60 กรัม
 2. แป้งข้าวโพด  10 กรัม
 3. ผงฟู    ½ ชช.
 4. กลิ่นวนิลา   ½ ชช.
 5. เกลือป่น   1/8 ชช.
 6. น้ำตาลทราย  50 กรัม
 7. ไข่ไก่เย็นจัด  2 ฟอง
 8. โอวาเล็ตหรือ sp  15 กรัม
 9. น้ำเย็นจัด   1 ชต.
 10. ผงโกโก้   15 กรัม
 11. เนยสดละลาย  30 กรัม
 12. นมข้นจืด   1 ช้อนโต๊ะ

ลงมือลุย 1. เตรียมพิมพ์กลมขนาด 2 ปอด์นหรือ 8 นิ้ว รองกระดาษไขทั้งด้านล่างและด้านข้างคะ (ส้มใช้พิมพ์เข็มขัด 8 นิ้ว ถ้าใครไม่มีใช้พิมพ์ธรรมดาก็ได้คะ) ไม่ต้องทาไขมันนะค่ะ  จากนั้นให้วอล์มเตาอบเลยที่ 180 องศาเซลเซียส (ขั้นตอนนี้ไม่มีรูปให้ดูเพราะคิดว่าเพื่อน ๆ คงทราบกันแล้ว แต่ถ้าใครนึกไม่ออกให้เปิดสูตรเค้กต่าง ๆ ที่มีในเว็ปดูจะมีวิธีเตรียมพิมพ์ไว้ให้ดูคะ^^) จากนั้นนำชามหรือโถตีที่จะตีวิปปิ้งครีมแช่ในตู้เย็นไว้ก่อนเลยคะ เพราะเดี๋ยวต้องใช้
black forest cake 
2. ร่อนแป้งเค้ก  แป้งข้าวโพด  ผงฟู เข้าด้วยกันคะ ทำหลุมตรงกลางด้วยนะจ๊ะ
black forest cake   black forest cake
 
 3. เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น จากนั้นคนให้เข้ากันด้วยพายยาง 
black forest cake   black forest cake
     
 4. เติมไข่ไก่ลงไป คนให้เข้ากันอย่าให้แป้งฟุ้งนะจ๊ะ^^
black forest cake   black forest cake
 5.  จะได้แบบนี้นะจ๊ะ พักไว้ก่อน จากนั้น ละลายเนยกับผงโกโก้เข้าด้วยกัน คนให้ส่วนผสมเนียน ไม่เป็นเม็ด พักไว้
black forest cake   black forest cake

 6. นำแป้งเค้กที่ได้ใส่ sp ลงไป ใช้หัวตีตะกร้อตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากันประมาณ 1 นาที จากนั้นเพิ่มความเร็วสูงสุด ตีต่อ 2 นาที แล้วปาดอ่างคะ (ปาดอ่างก็คือการเอาพายยาง คนให้ทั่วชามอ่างเพื่อให้ส่วนผสมด้านล่างและด้านข้างเข้ากันดีคะ^^)
black forest cake   black forest cake  
 7. จากนั้นเติมน้ำเย็นจัดลงไป ตีต่อ 3 นาที (ความเร็วสูง) จนส่วนผสมข้นเป็นครีม ปาดอ่าง ลดความเร็วลงต่ำสุดตีต่ออีก 3 นาที เพื่อให้เนื้อเค้กเนียน
black forest cake  
 8. เทส่วนผสมของเนยกับผงโกโก้ที่ละลายไว้แล้วลงไป
   black forest cake
        
 9.  จากนั้นเติมนมข้นจืด (นมข้นจืดส้มผสมกลิ่นวนิลาลงไปเลยคะ^^)
black forest cake
 10.  ตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากัน (ไม่เกิน 1 นาทีจ๊ะ) ปิดเครื่องเลย
black forest cake   black forest cake
 11.  ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันกับตัวผงโกโก้นะคะ (ทำเบา ๆ เร็ว ๆ และทั่ว ๆ ) จากนั้นเทใส่พิมพ์ได้เลยจ้า  ^^
black forest cake   black forest cake
           
 12.  อบไฟ 180 องศาเซลเซียส ส้มอบไฟล่างอย่างเดียวคะ ประมาณ 25 นาที และต่อด้วยไฟบนล่างอีก 5 นาที คะ  เป็นไงบ้างคะ หน้าสวยอะป่าว อิอิ ^^
black forest cake
 13.  เค้กสุกออกจากเตา ให้กะแทกพิมพ์ 1 ครั้ง (ไม่ต้องรุนแรงนะจ๊ะ ^^) เพื่อให้โครงสร้างเค้กอยู่ตัว จากนั้นคว่ำเค้กแบบในภาพ พักในตะแกรงให้เค้กเย็นจ๊ะ ระหว่างรอเค้กเย็นเรามาเตรียมของแต่งหน้ากันดีกว่าคะ
ส่วนที่ 2  ของแต่เค้ก
black forest cake
ส่วนผสมที่ส้มใช้ (เพื่อน ๆ อาจไม่เอาตามนี้ก็ได้นะจ๊ะ) 
 1. เหล้ารัมหรือแสงโสม หรือกลิ่นรัมก็ได้คะ (จิง ๆใช้เหล้าเคียชแต่ส้มไม่มี) 1 ช้อนโต๊ะ
 2. เชอรี่ในน้ำเชื่อมชนิดมีก้านซับน้ำออก
 3. เชอรี่ดำหรือดาร์กเชอรี่   1 กระป๋อง
 4. ดาร์กช็อกโกแลตขูดฝอยสำหรับแต่งหน้า
 5. สตอเบอรี่สด ฝานบาง ๆ (จิงๆ เค้าไม่มีแต่ส้มใส่อะ^^)
 6. น้ำเชื่อมเชอรี่ดำ ประมาณ 5-6 ช้อนโต๊ะ
ลงมือกันเลย
black forest cake   black forest cake
 1.  อันดับแรกมาขูดช็อคโกแลตก่อนนะจ๊ะ วันนี้ลองของเล่นใหม่จิง ๆซื้อมานานแล้วละแต่ไม่ได้ใช้ (ที่ขูดผักแต่เอามาไว้ขูดช็อคโกแลตโดยเฉพาะ  ซื้อที่โรบินสันตอนลดราคาพอดี^^) พักไว้ก่อนคะ
black forest cake   black forest cake
black forest cake   black forest cake
 2. มาทำดาร์กเชอรี่โดยเปิดกระป๋อง เอาแต่เนื้อมาหั่น ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ พักไว้
black forest cake   black forest cake
 3.  ดาร์กเชอรี่ที่เหลือ ส้มนำมาใส่กระป๋องปิดฝาเก็บเข้าตู้เย็นไว้ใช้ต่อไปคะ  ส่วนเชอรี่แดงให้ซับน้ำออกให้แห้ง ๆ ด้วยกระดาษทิชชู่ นะจ๊ะ
black forest cake   black forest cake
 4.  น้ำเชื่อมดาร์กเชอร์รี่ นำมาผสมกับเหล้ารัมคนให้เข้ากันพักไว้ก่อนคะ (จะเอาไว้พรมเค้ก)  เสร็จแล้วพักไว้ก่อน
black forest cake   black forest cake
 5.  นำเค้กที่เย็นแล้วแกะออกจากพิมพ์คะ (ดูก้นซะก่อน สวยมะ^^)
black forest cake
 6.  จากนั้นเตรียมอุปกรณ์คะ คือกระดาษรองเค้ก แป้นหมุน สเปตตูล่า มืดฟันเลื่อย และหัวบีบ^^ เราจะสไลซ์เค้กกันก่อนคะ โดยสไลซ์เป็น 3 ชั้น จิง ๆ เค้าให้แซะเอาผิดด้านหน้าออก (แต่ส้มมะได้เอาออกอิอิ^^)
black forest cake   black forest cake
 7.  ใช้มือฟันเลื่อยสไลซ์เค้กเป็น 3 ชั้นคะ (ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ไม่ค่อยชอบเลยอะเพราะทำไม่เคยตรง^^)  เห็นฟองอากาศไม๋คะ ไม่อยากบอกว่านุ่มแค่ไหน ต้องลองคะ ต้องลอง ^^ จากนั้นพักเค้กไว้ก่อนคะ

ส่วนที่ 3  ตีวิปปิ้งครีม
ส่วนผสม

 1.  วิปปิ้งครีม   300 กรัม (แช่เย็นจัดแต่ไม่ฟรีซ)
 2.  น้ำตาลไอซิ่ง 3 ชต.
 ลุยกันเลยนะจ๊ะ
black forest cake   black forest cake
 1.  ก่อนอื่นนำชามอ่างพร้อมหัวตี และวิปปิ้งครีมที่แช่เย็นไว้ออกมาเลยคะ จากนั้นเทวิปปิ้งครีมใส่ในชาม
black forest cake   black forest cake
       
 2.  ตีวิปปิ้งครีมด้วยความเร็วสูงสุดของเครื่อง  ค่อย ๆ โรยไอซิ่งลงไปคะ
black forest cake   black forest cake
          
 3.  ตีต่อไปคะ ใจเย็น ๆ นะจ๊ะใช้เวลานิดนึง จะเห็นว่าครีมเริ่มหนืดตัว และข้นขึ้น  รวมเวลาตีประมาณ 5-8 นาทีคะ ตีคนวิปครีมอยู่ตัว ตั้งยอดแข็งเป็นอันใช้ได้คะ
ส่วนที่ 4 (ส่วนสุดท้าย) ประกอบเค้กจ้า..^^

ขั้นตอนการประกอบเค้ก
black forest cake   black forest cake
 1.  เตรียมเค้กที่สไลซ์ ไว้แล้ว โดยวางเค้กชิ้นล่างสุดลงไปที่กระดาษรองเค้ก จากนั้นพรมเค้กด้วยน้ำเชื่อมดาร์กเชอรี่ที่ผสมเหล้ารัมลงไปคะ พรมให้ทั่วเค้กเลย
black forest cake   black forest cake
        
 2.  นำวิปปิ้งครีมปาดให้ทั่วตัวเค้กคะ ไม่ต้องหนามาก ^^ ประมาณ 1 ซม.
black forest cake   black forest cake
 3.  ปาดให้เรียบ ๆ นะจ๊ะ  แล้วนำดาร์กเชอรี่ที่หั่นไว้แล้ว วางเรียง ๆๆให้เต็กเลย (หรือจะใช้Cherry Filling ก็ได้) การวางนั้นให้เว้นระยะห่างจากขอบเค้กเข้ามาประมาณ 1 ซม. และอย่าให้หนามากนัก ไม่งั้นเค้กชั้นต่อไปอาจหลุดง่าย
black forest cake   black forest cake
            
 4.  วางเค้กชั้นที่ 2 ตามลงไปคะ แล้วเอาน้ำเชื่อมดาร์กเชอรี่ที่ผสมเหล้ารัมทาให้ทั่วเหมือนเดิมเลย จากนั้นปาดด้วยวิปปิ้งครีมอีกชั้น  จิง ๆ ชั้นนี้ก็ต้องใส่ดาร์กเชอรี่หั่นหรือ ฟิลลิ่งเหมือนเดิม แต่ส้มไม่ได้หั่นไว้ (อันแรกทำไว้ไม่พอ) อีกอย่างอยากแก้เลี่ยนด้วย เลยเอาสตอเบอรี่สด(มีอยู่แล้ว) มาสไลซ์บาง ๆ แล้ววางเรียงไว้แทนคะ^^
 black forest cake   black forest cake
 5.  จากนั้นนำส่วนบนสุด (ชั้นที่ 3 ) หงายเค้กขึ้น นำน้ำเชื่อมดาร์กเชอรี่ที่ผสมเหล้ารัมที่เหลือ ทาให้ทั่ว ๆ  อีกครั้ง
black forest cake   black forest cake
         
 6.   แล้วประกอบเค้กเข้าด้วยกัน จากนั้นปาดเค้กทั้งก้อนด้วยวิปปิ้งครีมหนาประมาณ ครึ่งเซนติเมตร บีบวิปปิ้งครีมตกแต่งให้สวยงาน  ต้องรีบนิดนึงนะจ๊ะเพราะวิปปิ้งครีมไม่เหมือนบัตเตอร์ครีม มันจะอยู่ตัวไม่นานถ้าไม่แช่เย็นมันจะเหลวว มากกก.. โดนมาแล้ว^^
black forest cake   black forest cake
          
 7.  จากนั้นบีบวิปปิ้งครีมตกแต่งให้สวยงาม (แต่วิปปิ้งครีมของส้มมันไม่พอ แถมมันเริ่มละลายแล้วเลยบีบไม่ได้อะ เส้า^^’ ) แล้วตกแต่งด้วยเกล็ดช็อคโกแลตขูด เชอรี่ หรืออื่น ๆ ให้สวยงาม (กว่าของส้ม อิอิ ^^)  ตัดชิมและแจก ขอบอกว่าอร่อยมากคะ เนื้อเค้กนุ่ม ไม่หวานมาก ลองทำทานดูนะจ๊ะ
black forest cake   black forest cake

 


Custard Chiffon Cake

 
Custard  Chiffon  Cake

Custard Chiffon Cake

 ชิฟฟ่อนอีกแล้ว อย่าพึ่งเบื่อกันนะจ๊ะ อย่างที่บอกช่วงนี้แม่ไม่ค่อยสบายทานอะไรแข็ง ๆ
ไม่ค่อยได้ เลยต้องหาขนมนิ่ม ๆ ไว้ให้แม่ทานคะ^^ สูตรนี้จะคล้าย ๆ กับสูตร “เค้กฝอยทอง” แต่ไม่เหมือนกันนะค่ะ 
ส้มคิดว่าเนื้อเค้กสูตรนี้นิ่มกว่า แต่วิธีการทำค่อยข้างยุ่งยาก (จิง ๆ อยากบอกว่าต่อไปถ้าจะทำคงคิดหนักอะ ^^’)

ขั้นตอนการทำ ขอแบ่งเป็น 3 ส่วนนะค่ะ เพื่อน ๆ จะได้ทำง่ายขึ้น อ๋อลืมบอกไป ใช้พิมพ์ขนาด 2-3 ปอด์น หรือถ้าเป็นถาดก็ขนาดเดิม 7*11*1.5 คะ ลงมือกันเลยนะจ๊ะ
ส่วนที่ 1 (คาราเมล หรือหน้าน้ำตาลไหม้) ซึ่งเป็นส่วนที่ส้มคิดว่ายากและไม่ชอบที่สุด^^
 ส่วนประกอบ ก็คือน้ำตาลทราย ประมาณ 60-80 กรัม
Custard Cake  Custard Cake
Custard Cake
 วิธีการทำ ก็เอาน้ำตาลใส่ในพิมพ์ตั้งไฟจนละลาย สีเหมือนน้ำผึ้งหรือออกน้ำตาลไหม้ ไฟอ่อน ๆ นะจ๊ะ (อันนี้ส้มทำไหม้อะ ขอบอกว่าร้อนมากตอนเอาไปอังไฟ^^’) พอน้ำตาลละลายเป็นสีชาอ่อน รีบยกขึ้นแล้วเอียงพิมพ์ให้น้ำตาลเกลี่ยให้ทั่วพิมพ์ (ทำเร็ว ๆ นะค่ะ เพราะน้ำตาลไหม้แข็งเร็วมากกกก )  จากนั้นพักไว้ก่อนคะ
 ส่วนที่  2  ตัวคัสตาร์ด
 ส่วนประกอบ
Custard Cake
  น้ำตาลทราย   75 กรัม
  นมข้นจืด  220 กรัม
  ไข่แดง  3 ฟอง  เบอร์ 1 ค่ะ
  วนิลา  1 ½ ชช
วิธีทำจ้า..
Custard Cake
 - นำน้ำตาลทรายใส่ชาม ตามด้วยไข่แดงจากนั้นเทนมข้นจืดลงไป (นมข้นจืดผสมวนิลาลงไปก่อนนะค่ะ
Custard Cake
- จากนั้นก็ คน ๆๆๆๆๆ ให้น้ำตาลละลายจ้า
Custard Cake

- นำส่วนคัสตาร์ดที่ได้ มากรอง เพื่อส่วนผสมจะได้เนียน ๆ ^^
Custard Cake  Custard Cake

 - เทส่วนผสมใส่ลงไปที่หน้าน้ำตาลไหม้เลยจ้า.. จากนั้นพักไว้ก่อนนะ และก็มาทำตัวเค้กกันคะ
ส่วนที่ 3 Chiffon  cake
แป้งเค้ก  100 กรัม
ผงฟู   1 ¼ ชช.
น้ำตาลทราย (1) ¼ ถ้วย
น้ำมันพืช  30 กรัม
ไข่แดง   2 ฟอง
ไข่ขาว   2 ฟอง
วนิลา   ½ ชช.
น้ำ   1/3 ถ้วย
ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ชช.
น้ำตาลทราย (2) ¼ ถ้วย
ลงมือลุย
Custard Cake   Custard Cake
 1.  เริ่มจากร่อนแป้งเค้ก กับผงฟูรวมกันคะ ร่อนอย่างน้อย 2 ครั้นนะจ๊ะจะทำให้เค้กเบาอร่อยขึ้นจ้า.. จากนั้นใส่ชามพักไว้ก่อน (อะแน่ ^^ อย่าลืมทำหลุมตรงกลางแป้งนะจ๊ะ)
Custard Cake  Custard Cake
2. เติมน้ำตาลทราย (1) ลงไปในหลุม  ตามด้วยไข่แดง 2 ฟอง
Custard Cake
3. จากนั้นใส่น้ำมันพืช  กลิ่นวนิลา  น้ำ
Custard Cake  Custard Cake

4. คนส่วนผสมให้เข้ากันคะ  พยายามคนให้ทั่ว ๆ อย่าให้แป้งเป็นเม็ดนะจ๊ะ จากนั้นพักไว้ก่อน
Custard Cake  Custard Cake

 5.  ส่วนผสมของไข่ขาวคะ นำไข่ขาวใส่ชาม  ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ ลงไป ตีพอไข่ขาวขึ้นเล็กน้อย แล้วให้ใส่น้ำตาลทราย(2) ลงไป จากนั้นปรับตีความเร็วสูงสุด ประมาณ 5 นาทีให้ไข่ขาวตั้งยอดคะ (ลักษณะข้น)
Custard Cake  Custard Cake
 6.  จากนั้นแบ่งส่วนไข่ขาวออกเป็น 3 – 4 ส่วน ตักไข่ขาวลงไปในไข่แดง แล้วตะล่อมให้เบามือ(อย่าแรงนะจ๊ะเดี๋ยวจะยุบ^^) ให้ส่วนผสมเข้ากันคะ  ค่อย ๆทำทีละครั้ง จนหมด ตอนตะล่อมให้คนถึงก้นชามเลย  พยายามให้เข้ากัน อย่าให้ไข่ขาวกับไข่แดงแยกตัวนะจ๊ะ ตอนตะล่อมอาจหมุนชามช่วยก็ได้นะ (จะงงกันป่าวเนี่ย^^)
Custard Cake  Custard Cake
 7.  เทส่วนผสมแป้งใส่ใสถาดที่ทำตัวคัสตาร์ดไว้แล้วเลยจ้า.. ใช้พายยางปาดหน้าเค้กให้เรียบ และเสมอกัน
Custard Cake  Custard Cake
 8.  จากนั้นนำถาดคัสตาร์ดเค้ก  แช่ในถาดอีกใบที่ใหญ่กว่าโดยในถาดใบใหญ่กว่าใส่น้ำไว้ ¼ ของพิมพ์ (จะคล้าย ๆ กันเค้กฝอยทอง แต่ไม่ต้องรองหนังสือพิมพ์คะ)  แล้วนำเข้าอบคะ อบไฟล่าง 180 องศา (ถ้าเตาใครไม่มีไฟล่าง ให้ใช้ไฟบน – ล่างก็ได้นะจ๊ะ)  นานประมาณ 45 นาที
Custard Cake
 9.  สุกแล้วคะ (กูรูบอกว่าถ้าเค้กสุก มันจะร่อน ออกจากพิมพ์) เห็นป่าว ๆ ^^ หรือถ้าไม่ชัวร์ ก็ให้เอาพายยาง แซะข้าง ๆ ดูว่าตัวคัสตาร์ดสุกอะป่าวก็ได้คะ ถ้าสุกจะไม่แยกตัวกับหน้าน้ำตาลไหม้ จะเป็นเหมือนลักษณะไข่สุก คือน้ำไม่ขุ่น)
Custard Cake  Custard Cake
 10. ไหนขอดูหน้าหน่อยซิ ^^  การคว่ำหน้า(ของส้ม) ส้มเอาถาดเค้กวางบนตะแกรงคะ จากนั้นนำถาดอีกใบที่ใหญ่กว่า มาครอบทับ  แล้วก็กดให้แน่นนิดนึง แล้วก็ตีลังกามันเลย ^^ นึกภาพออกป่าวคะ (ก่อนจะทำต้องเอาพายยางกรีดขอบข้างขนมทั้ง 4 ด้านก่อนนะจ๊ะ) จาเปิดฝาแล้วววนะ^^
Custard Cake  Custard Cake


 11. จ๊ะเอ๋  custard chiffon  cake  สำมะเร็จแล้วจ้า..  ตัดแบ่งเลยละกันนะจ๊ะ
Custard Cake  Custard Cake
12. ดูความนุ่มของเค้กซะก่อน ^^ เชิญหยิบชิมได้เลยค้า
Tips:
- จิง ๆ เคยทำคัสตาร์ดเค้กมาแล้วครั้งนึง โดยเอาสูตรมาจากหนังสือ UFM คะ แต่พอเอาไปให้เพื่อน ๆชิม เค้าบอกว่า เค้กเนื้อแน่น หยาบ และหวานไป แต่สูตรนี้คิดว่าผ่านคะ ^^
- สูตรนี้ดัดแปลงจากสูตร คุณเจ๊หลี (กิน ๆ เที่ยว ๆ) จากห้องก้นครัว ขอบคุณนะค่ะ
- สูตรที่ลงนี้ ส้มลดน้ำตาลลงแล้ว เพราะตอนที่ทำเอาไปให้เพื่อน ๆ ชิม เสียงตอบมาว่าคัสตาร์ดหวานไปจ๊ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. Casino Site Review 2021 – Live Dealers, Bonus Code for
    Casino Site Review 2021 – Live Dealers, Bonus Code for New Players & 2021. Our expert review covers top luckyclub.live sites & bonus codes.

    ตอบลบ